เซียมซีญี่ปุ่น น่ารักไม่เหมือนใคร ที่สายมูไม่มีไม่ได้แล้ว

              เซียมซีญี่ปุ่น หรือ โอมิคุจิ เป็นเซียมซีที่ไม่ได้มีแต่รูปแบบเป็นแท่งเหมือนที่เราคุ้นเคย แต่เซียมซีญี่ปุ่นยังมีรูปแบบน่ารัก ๆ ที่มีรูปร่างหน้าตาและคำทำนายเฉพาะของแต่ละศาลเจ้าด้วยนะ เซียมซีญี่ปุ่นจึงมีหลายประเภทและหลายรูปแบบแต่จะมีแบบไหนบ้าง เรามาเริ่มทำความรู้จักกันทีละนิดรับรองถูกใจสายมูแน่นอน…

เซียมซีญี่ปุ่น น่ารักไม่เหมือนใคร ที่สายมูไม่มีไม่ได้แล้ว

รู้จักกับเซียมซีญี่ปุ่น

ต้นกำเนิดของเซียมซีญี่ปุ่นเชื่อกันว่าเกิดขึ้นในช่วงสมัยเอโดะ ผ่านหมอดูตัวแทนของเทพเจ้าเพื่อนำสารจากเทพมาบอกกล่าวมนุษย์ ต่อมาเซียมซีญี่ปุ่นได้เปลี่ยนมาเป็นคำที่ใช้แทนคำสอนของเทพเจ้าในเชิงลักษณะของคำแนะนำแทนและได้กลายเซียมซีญี่ปุ่นเหมือนอย่างแบบปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเซียมซีญี่ปุ่นนั้นจะมีลักษณะที่แตกต่างกันตามความเชื่อของวัดและศาลเจ้าในแต่ละแห่ง

 

ความหมายของเซียมซีญี่ปุ่น

เซียมซีญี่ปุ่น มีหลายรูปแบบมีทั้งเป็นแท่งอยู่ในกระบอกที่เราคุ้นตากับแบบใบเซียมซีที่อยู่ในกล่องเพื่อสุ่มหยิบรับคำทำนาย ซึ่งคำทำนายของญี่ปุ่นนั้นจะมีความหมายที่แตกต่างกันออกไปและมีการแบ่งความหมายออกเป็นหลายระดับแต่ที่เราพบเห็นมากที่สุด คือ 7 ระดับ และ 12 ระดับ

           สำหรับ 12 ระดับ จะถูกแบ่งออกเป็น โชคดีมากที่สุด (⼤吉) โชคดีปานกลาง (中吉) โชคดีเล็กน้อย (⼩吉) โชคดี (吉) โชคดีครึ่งหนึ่ง (半吉) เกือบโชคดี (末吉) โชคดีอย่างหวุดหวิด (末⼩吉) โชคร้าย (凶) โชคร้ายเล็กน้อย (⼩凶) โชคร้ายปานกลาง (半凶) โชคร้ายมาก (末凶) และโชคร้ายมากที่สุด (⼤凶) 

          โดยเซียมซีบางศาลเจ้าอาจมีแบ่งแยกย่อยมากกว่านี้ หรืออาจมีน้อยกว่านี้แค่ โชคดีมาก (⼤吉) โชคดี (吉) และโชคร้าย (凶) เท่านั้น ในขณะเดียวกันอาจมีบางศาลเจ้าที่ใบเซียมซีไม่มีเกี่ยวกับ “โชคร้าย” อยู่ด้วยเลยอย่างศาลเจ้าศาลเจ้าศาลเจ้าฟูชิมิอินาริไทฉะ (Fushimi Inari Taisha) ในจังหวัดเกียวโต แถมยังมีแบ่งเซียมซีมากถึง 32 ประเภทด้วยนะ

วิธีเสี่ยงเซียมซีแบบญี่ปุ่น

การเข้าไปเสี่ยงเซียมซีที่ญี่ปุ่นต้องกระทำเช่นเดียวกับการเข้าวัดหรือศาลเจ้าญี่ปุ่น โดยเริ่มจากการชำระล้างร่างกายก่อนเข้าวัด จากนั้นก็เข้าไปไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้านในเพื่อขอพร แล้วค่อยเสี่ยงเซียมซีหรือหยิบกระดาษคำทำนายเป็นอันดับสุดท้าย หากเพื่อน ๆ เห็นแล้วว่าใบเซียมซีที่ไหนนั้นความหมายไม่ดีสามารถนำไปผูกไว้กับกิ่งไม้ที่ทางศาลเจ้าหรือทางวัดจัดเตรียมไว้ให้ ถ้าได้คำทำนายดีก็สามารถนำกลับไปบ้านเอาไปใส่กระเป๋าสตางค์ หรือวางไว้บนหิ้งพระ หรือโต๊ะทำงานได้เลย

3 ศาลเจ้าชื่อดัง ที่สายมูต้องไม่พลาด

  1. ศาลเจ้าอิวาชิมิสึ ฮะฉิมังกู (Iwashimizu Hachimangu) เกียวโต

ศาลเจ้านี้โด่งดังเรื่องนกพิราบทำนายโชคชะตา (Hato Mikuji) ซึ่งเซียมซีนี้จะอยู่ติดกับรูปปั้นนกพิราบ ตัวแทนผู้ส่งสารของเทพเจ้าแห่งศาลเจ้าฮะฉิมังกู หากในใบเซียมซีมีคำว่า “平” จะมีความหมายว่า คุณจะมีโชคลาภ ส่วนคำนี้ “未分” หมายความว่า การกระทำในอนาคตของคุณจะนำความโชคดีและโชคร้ายมาให้ 

  1. ศาลเจ้าเมจิจิงกู (Meiji Jingu) โตเกียว

เซียมซีที่ศาลเจ้านี้ไม่ได้เรียกว่า “โอมิคุจิ” แต่เรียกว่า”โอมิโคโคโระ (大御心)” เป็นกระดาษที่เป็นบทกลอนของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิที่มีมากถึง 30 บทกลอน ไม่ได้เป็นกระดาษใบเซียมซีเหมือนกับศาลเจ้าอื่น ทำให้ภายในศาลเจ้าไม่มีบริเวณที่ผูกกระดาษเลย ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าบทกลอนนี้มีความหมายในการดำรงชีวิตเป็นอย่างมาก และจะยึดถือนำไปปฏิบัติ

  1. ศาลเจ้าฮิคาวะ(Hikawa Shrine) ไซตามะ

มาถึงศาลเจ้าสุดท้ายที่ขึ้นชื่อเรื่องความรัก ใครที่ต้องการหาคู่ต้องมามูที่ศาลเจ้านี้ พอมาถึงแล้วเพื่อน ๆ จะต้องหลงรักเซียมซีปลาสีแดงของศาลเจ้านี้อย่างแน่นอน วิธีการเสี่ยงเซียมซีก็ไม่ยากเพียงใช้คันเบ็ดเล็ก ๆ ตกปลาขึ้นมา คุณก็จะพบกับคำทำนายที่ตัวตุ๊กตาปลาอย่างแน่นอน ไม่เพียงแค่เรื่องความรักของวัยหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความรักความสัมพันธ์ของพี่น้อง ครอบครัว เพื่อนฝูง และเพื่อนร่วมงานด้วยนะ

               การเสี่ยงเซียมซีเป็นการลุ้นว่าในอนาคตเราจะเจอเรื่องโชคดีหรือโชคร้ายผ่านการสุ่มเลือกใบเซียมซีญี่ปุ่ แต่เพื่อน ๆ รู้ไม่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่เราไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยเลยว่าสิ่งที่เราจะได้เจอจะดีหรือไม่ คือการได้เข้ามานั่งทานอาหารที่ Kabocha sushi ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ผ่านการคัดเลือกวัตถุดิบมาเป็นอย่างดี ทำให้เรามั่นใจได้ว่าเราจะได้ทานอาหารญี่ปุ่นที่สดใหม่ อร่อย ปรุงรสด้วยความใส่ใจ และมีคุณภาพในทุก ๆ คำ อยากกินซูชิก็จะได้กินซูชิแบบเต็มปากเต็มคำ อยากกินซาชิมิก็จะได้กินในส่วนที่มีคุณภาพมากที่สุด ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ และสนุกสนาน ใครชอบสั่ง delivery ที่ร้านก็มีให้บริการนะครับ ทางร้านมีแพกเกจใส่อาหารอย่างดี ลวดลายน่ารักด้วยนะ หิวเมื่อไหร่ อย่าลืมสั่ง Kabocha sushi  นะครับ