หากใครได้ไปเยี่ยมเยือน ญี่ปุ่น แล้วนั้น คงได้สัมผัสกับ วัฒนธรรม อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงอากาศ อย่างที่รู้กัน “ญี่ปุ่น” เป็นประเทศที่มี 4 ฤดู ในฤดูใบไม้ผลิ ความหนาวเย็นเริ่มจางลง อากาศค่อยๆ อบอุ่นขึ้น การได้เดินชมซากุระเบ่งบาน โรแมนติกเกินบรรยาย พอเข้าฤดูร้อน ผู้คนจะเดินแห่ศาลเจ้าเล็กๆ แห่ในงานเทศกาลตามชายทะเล ส่วนฝั่งแม่น้ำก็จะมีการจัดงานเทศกาลดอกไม้ไฟ ซึ่งดอกไม้ไฟที่ถูกยิงขึ้นฟ้าจะช่วยแต่งแต้มสีสันที่สดใสเจิดจ้าให้กับท้องฟ้าในยามค่ำคืน มาถึงฤดูหนาว ได้สัมผัสหิมะรับลมหนาว ทานโซบะในช่วงเวลาข้ามสู่วันใหม่ (ระยะเวลา 3 วันตั้งแต่ขึ้นปีใหม่จะเรียกว่าโชกะสึหรือแปลว่าปีใหม่) รับกลิ่นอาย วัฒนธรรมญี่ปุ่น ได้แบบเต็มๆ ส่วนฤดูสุดท้าย คือ ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูแห่งใบไม้เปลี่ยนสี ใบไม้ของไม้ผลัดใบจะถูกย้อมเป็น สีแดง แล ะสีเหลือง เปลี่ยนสีของภูเขา และ ต้นไม้ริมถนน นอกจากนี้ยังเป็นฤดูแห่ง “ข้าวญี่ปุ่น” ที่อร่อยที่สุด ข้าวใหม่หอมนุ่มละมุนลิ้น
เข้าเดือนกันยายน- ตุลาคม - พฤศจิกายน 3 เดือนนี้ จะเป็นฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวข้าว ของที่ญี่ปุ่น ซึ่งข้าวที่ได้ คนญี่ปุ่น จะเรียกกันว่า Shinmai (新米 しんまい) หรือหากแปลเป็นภาษาไทย นั่นก็คือ ข้าวใหม่ ซึ่งเอกลักษณ์ของ Shinmai หรือ ข้าวใหม่ จะเป็นเม็ดข้าวสีขาวใส เมื่อนำมาหุงจะได้ข้าวที่เหนียวนุ่มและหอมมากๆ ซึ่งรสชาติจะต่างจากข้าวที่เก็บเกี่ยวในฤดูกาลอื่นอยู่มากเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องได้ลิ้มรสของพันธุ์ข้าวญี่ปุ่น “Koshihikari” ซึ่งเชฟทั่วโลกได้ขนานนามว่า "ราชาแห่งข้าวปั้น" และได้ยกย่อง ว่าเป็นพันธุ์ข้าว ที่ทำซูชิ หรือ เมนูอาหารญี่ปุ่น อื่นๆ ได้อร่อยที่สุด
หากมาพูดถึง ข้าวญี่ปุ่น Koshihikari (โคชิฮิคาริ) นั้น ข้าวพันธุ์นี้ส่วนใหญ่ จะปลูกกันในจังหวัดนีงาตะ จังหวัดอิบาระงิ จังหวัดโทชิงิ จังหวัดจิบิ จังหวัดมิยาซากิ ซึ่งจุดเด่นของข้าว จะมีลักษณะเม็ดอวบอ้วน เมล็ดข้าวสั้น มีความมันเงา เมื่อข้าวสุกแล้ว เมล็ดข้าวจะมีความเหนียว มีกลิ่นหอม รสชาติดีนุ่มละมุนลิ้น จะว่าไปแล้วคอข้าวปั้น สายซูชิ หรืออาหารญี่ปุ่น ต้องไม่พลาดลิ้มรสข้าวพันธุ์นี้ รับรองว่าติดใจติดแน่นวงการ อาหารญี่ปุ่นแน่นอน
ช่วงสถานการณ์ เชื้อโควิด19 ระบาดนี้ หลายคนคงเบื่อเมนูอาหารเดิมๆ เมนูซ้ำ ๆ ของที่บ้าน จะออกไปไหน ก็ไม่สะดวก ไปตลาด ก็ไม่รู้จะซื้ออะไรทำอาหาร ทาง Kabocha จึงปิ๊งไอเดียตามล่าหา ข้าวญี่ปุ่นอร่อย Koshihikari พร้อมหาเมนูใหม่ มาเยียวยาสาย ซูชิญี่ปุ่น ให้ได้ลิ้มรส เมนูพรีเมี่ยมสูตรใหม่ถึง 7 เมนู นอกจากนี้ยังเพิ่มความแปลกใหม่ด้วย ข้าวญี่ปุ่นสีแดง ที่นำเอาข้าว Koshihikari (โคชิฮิคาริ) มาผสมคลุกเคล้ากับน้ำปรุงสูตรเด็ดข องทางร้าน ที่เรียกว่า Akazu (อาคะสุริ) ทำให้ข้าวเป็นสีออกแดงน้ำตาล หอมเหล้าสาเกหมักอ่อนๆ รสชาติจะเข้มข้นมากกว่าข้าวขาวแบบปกติ จึงอร่อยติดปากทุกคำ ให้ความรู้สึกที่แตกต่าง แต่อร่อยลงตัวกับปลาสด และ หอยสด อย่าง Salmon ปลาแซลมอน MAGURO ปลามากุโระ Hamachi ปลาฮามาจิ หรือ Hotate หอยเชลล์
ด้วยความเชื่อของ คนญี่ปุ่น ที่ว่า สีแดงมีพลังในการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ทำให้ธรรมเนียมการบูชาเทพเจ้าด้วยข้าวแดง และรับประทานข้าวแดง ที่เหลือจากการบูชาเพื่อขอพรให้โชคดี จึงเกิดเมนูข้าว Akazu (อาคะสุริ) ดีต่อสุขภาพ โดยจะใช้ น้ำส้มสายชูสีแดงอ่อน ๆ ซึ่งทำมาจาก กากสาเก และโดยทั่วไปจะใช้เวลาหมักนาน 3-4 ปี ( กากสาเก จะเปลี่ยนเป็นสีแดงซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “aka ” หมายถึงสีแดงและ “zu” หมายถึง น้ำส้มสายชู )
ดังนั้น พบกับ 7 เมนูพิเศษที่ทำจากข้าว AKAZU สูตรพิถีพิถันสไตล์เอโดะได้แล้ว วันนี้ เฉพาะเดือนกันยายนเท่านั้น พร้อมเสิร์ฟแล้วที่ Kabocha ทุกสาขา ดูเมนูพิเศษได้เพียง คลิกที่ ดูเมนู
อิ่มอร่อยได้ที่ร้าน เช็คสาขาใกล้คุณ คลิกที่นี่ หรือสั่งความอร่อยส่งตรงถึงบ้านได้ที่ Kabocha delivery
#ข้าวญี่ปุ่น คาโบฉะ kabocha ร้านอาหารญี่ปุ่น kabocha เมนู