"ปลาปักเป้า" เมนู Sixnature ห้ามพลาด หากไปเยือนย่าน ยามากุจิ

             

              จังหวัดยามากุจิ ซึ่งตั้งอยู่ที่ปลายสุดทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะฮอนชู เป็นจังหวัดที่เงียบสงบ มีบรรยากาศความเป็นชนบทอยู่นิดๆ เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงของแหล่งกำเนิดซามูไร ที่สำคัญเป็นเมืองหนึ่งที่มีย่านปราสาทที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงามของญี่ปุ่น มีเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์ท้องถิ่น มีชายหาดที่เงียบสงบ ศาลเจ้าที่ซ่อนตัวอยู่ และมีถ้ำหินปูนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้หากใครอยากเห็นดอกซากุระ ที่นี่จะบานก่อนที่อื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่น แถมมีตลาดและร้านอาหารที่มีอาหารทะเลโดยเฉพาะ “ปลาปักเป้า” ที่ดีที่สุดในประเทศ ถือว่าเป็นอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษเลยก็ว่าได้ วันนี้ Kabocha sushi เลยอยากจะพามาดู เมนูปลาปักเป้ายอดฮิต ชวนน้ำลายไหล มีเมนูอะไรบ้างมาดูกันครับ!!

ซาชิมิปลาปักเป้า (ふぐ刺し)

ซาชิมิปลาปักเป้านั้นเรียกอีกแบบได้ว่า "เทสสะ" ซึ่งจะสไลด์เนื้อให้บางใส จนมองเห็นลายของจานที่นำมาจัดวาง โดยวิธีการกินปลาปักเป้า คือ ให้ใช้ตะเกียบ คีบจากตรงกลางชิ้นของปลาประมาณครั้งละ 2-3 ชิ้น และนำไปจิ้มกับ "ซอสพอนสึ" แทนโชยุ พร้อมใส่ต้นหอมสับน้ำคั้นมะกรูดญี่ปุ่น (ยุสึ) และหัวใช้เท้าบดผสมพริก (โมมิจิโอโรชิ) จากนั้นห่อต้นหอมเล็กๆ ไว้ในเนื้อปลาปักเป้า แล้วจึงค่อยทาน เนื้อปลาปักเป้าสดใหม่จะหวานกรุบกรอบกำลังดี 

หม้อไฟปลาปักเป้า หรือ เทจจิริ (てっちり/ふぐ鍋)

อีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด เป็นเมนูที่คนท้องถิ่น เรียกว่า “เทจจิริ (てっちり)”  ความอร่อยของเมนูนี้ คือ นำเนื้อปลาปักเป้าสดๆ ใส่ผักสด อย่างผักกาดขาว เห็ดหอมดิบ ต้นหอม เต้าหู้ และวุ้นเส้นญี่ปุ่นคุซึคิริ ใส่ลงในซุปสาหร่ายคอมบุ จากนั้นนำไปต้มปรุงรสด้วย ซอสพอนสึพร้อมเครื่องปรุงรส อย่าง หัวไชเท้าบดโมมิจิโอโรชิ  แค่นี้ก็ได้อร่อยกับเมนูหม้อไฟ รสชาติกลมกล่อมอย่าบอกใคร แต่หากมีน้ำซุปเหลือแต่ยังอยากอร่อยกับน้ำซุปหวานๆ ของปลาปักเป้า สามารถนำมาทำข้าวต้มทรงเครื่องได้อีกเมนู รับรองอร่อยได้จนหยดสุดท้ายจริงๆ 

ปลาปักเป้าตากแห้ง (ふぐの一夜干し)

ด้วยความที่ว่า เมืองชิโมโนเซกิ จังหวัดยามากุจิ นั้น เป็นเมืองที่มีปลาปักเป้ามากที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงที่เนื้อของปลาปักเป้าจะมีเยอะเป็นพิเศษ เพราะเป็นฤดูผสมพันธุ์ของ ปลาปักเป้า คนท้องถิ่นจึงต้องใช้วิธีถนอมอาหาร ด้วยการตากแห้งปลาปักเป้า เพื่อรักษาสารอาหารในเนื้อปลาได้อย่างดี และยังได้ เนื้อปลาตากแห้งมาทำเมนูอร่อยชวนน้ำลายไหลได้หลากเมนู แต่เมนูนำเนื้อปลาปักเป้าไปย่าง แล้วนำมาคลุกกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ เมนูหอมกลมกล่อมละมุมลิ้นที่คนญี่ปุ่นแนะนำว่าไม่ควรพลาด

คาราอาเกะปลาปักเป้า (ふぐのから揚げ)

เป็นเมนูที่คนท้องถิ่นแทบจะกินทุกบ้าน เพราะเป็นเมนูท้องถิ่นที่ทำง่าย กินง่าย แม้แต่เด็กที่ไม่ชอบกินปลาปักเป้า ยังต้องหลงรัก เพราะรสชาติกลมกล่อม หอมทั้งคำ อร่อยกรอบทุกชิ้น ของปลาปักเป้าปรุงรสด้วยโชยุและขิง แล้วนำมาชุปแป้งทอดในน้ำมันร้อนๆ ทายคู่กับหัวไชเท้าขูด รับรองว่าฟินนุ่มลิ้นไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่แน่นอน

หนังปลาปักเป้า หรือ เทปปิ (ふぐ皮の刺身/てっぴ)

เมนูที่สาวๆ ไม่ควรพลาด เป็นเมนูยอดนิยมของเหล่าบรรดาสาวๆ ญี่ปุ่น เพราะเมนูหนังปลาปักเป้า นี้มีคอลลาเจนเต็มๆ ช่วยให้ผิวสวยชุ่มชื้น แถมมาพร้อมความอร่อยหอมนุ่มละมุนลิ้นเต็มปากเต็มคำ เมนูนี้จะแบ่งความอร่อยที่แตกต่างกันของปลาปักเป้าออกเป็น 3 ส่วน คือ ชั้นนอก ส่วนที่ติดกับร่างกาย และส่วนตรงกลาง จากนั้นนำ ปลาปักเป้าสด มาลวกในน้ำร้อน และรีบเอาขึ้นมาจุ่มน้ำเย็น วิธีการลวกแบบนี้ จะทำให้เนื้อปลา คงความหวานได้เต็มที่ และยังทำให้เนื้อปลานุ่มแน่นยิ่งขึ้น คนท้องถิ่นแนะนำให้จิ้มซอสพอนสึพร้อมใส่เครื่องปรุงอย่างต้นหอมและยูสุ โคโช (น้ำพริกที่ทำจากพริก เปลือกยูซุ และเกลือ)  

ฮิเระสาเก ปลาปักเป้า (ひれ酒)

เมนูท้องถิ่นที่แนะนำอีก 1 อย่าง ที่คอสาเกห้ามพลาดเด็ดขาด เป็นอีกวิธีของการกินปลาปักเป้าของคนท้องถิ่น สาเกร้อนๆ  หอมปลาปักเป้าย่าง ซึ่งเมนูนี้จะนำครีบปลาปักเป้า 1-2 ชิ้น ค่อยๆ ย่างด้วยไฟอ่อน กลับด้านไปมา จนเป็นสีน้ำตาล และนำไปใส่ในสาเกร้อน อุณหภูมิ 70-80 องศา แช่ไว้ประมาณ 3 นาที ก็สามารถฟินกับสาเกครีบปลาปักเป้าร้อนๆ ได้แล้ว หากกินคู่กับคาราเกะหรือปลาตากแห้งเป็นกับแกล้มก็จัดว่าเด็ดอีกด้วย ส่วนใครคิดว่ารสชาติต้องคาวแน่ๆ บอกได้เลยว่าด้วยกรรมวิธีการย่างของคนที่นี่ ไม่มีกลิ่นคาวมากวนใจแน่นอน

                     เมนูปลาปักเป้าเป็นที่คลญี่ปุ่นรู้จักกันมานานถึง 200 ปี ตั้งแต่ช่วงที่โตเกียวยังถูกเรียกว่าเอโดะกันเลย  แต่ตอนนั้นคนญี่ปุ่นยังกังวลเรื่องพิษของปลาปักเป้าค่อนข้างมาก จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไร ปัจจุบันนี้ เมนูปลาปักเป้ากลายเป็นเมนูที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย เพราะพ่อครัวที่สามารถจะทำเมนูปลาปักเป้าได้จะต้องผ่านการอบรมและฝึกฝนจนได้รับใบอนุญาตเท่านั้น แต่ถ้าหากใครคิดถึงอาหารญี่ปุ่น สามารถมาที่  Kabocha sushi (คาโบฉะ ซูชิ) ลิ้มรสชาติชาติญี่ปุ่นแท้ๆ ให้หายคิดถึงได้นะครับ มี 11 ใกล้สาขาใกล้บ้านคุณ หรือ หากอยากอร่อยที่บ้าน สามารถสั่งออนไลน์ เดลิเวอรี่ delivery ส่ง อาหารญี่ปุ่น ให้คุณอร่อยที่บ้านได้เช่นกันนะครับ