ทำไมซามูไรไม่กินปลาทูน่าความเป็นมาและความเชื่อเกี่ยวกับ “ซูชิ”

     ซูชิ หรือ ข้าวปั้นที่มีหน้าต่างๆ เป็นอาหารของ ชนชาติญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ถือได้ว่าเป็นอาหารที่คนนึกถึงเป็นอย่างแรกๆ เมื่อถามถึง อาหารญี่ปุ่น ที่ชอบซูชิเป็นอาหารที่มีส่วนประกอบของ ซูชิเมะชิ หรือ ข้าวที่ผสมกับน้ำส้มสายชู มีหน้าแบบต่างๆ เป็นท็อปปิ้ง ทั้งอาหารทะเล เนื้อสัตว์ ไข่ ผัก และส่วนใหญ่จะใส่ วาซาบิ ลงไปบนตัวข้าว เพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อย ซูชิ จึงเป็นอาหารที่กินง่าย หาซื้อง่าย มีตั้งแต่ราคาหลักสิบจนถึงหลักหมื่น (ขึ้นอยู่กับความอลังการของวัตถุดิบที่ใช้)

การทำซูชิ มีในญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานแล้ว ทำให้คนเข้าใจว่าเป็นอาหารของ ดั้งเดิมของญี่ปุ่น แต่ที่จริงแล้วพบว่า ญี่ปุ่น รับวัฒนธรรมการกินปลาหมักกับข้าวมาจากเมืองจีน โดยมีหลักฐานจากเอกสารโบราณ ของจีนที่พูดถึงอาหารคล้ายกับซูชิ คือ ปลาเค็ม ที่หมักด้วยข้าว และ จะนำปลามากินเมื่อหมักจนได้ที่แล้ว ส่วนข้าวที่นำมาหมักนั้นจะเอาไปทิ้ง

อีกความเชื่อก็เชื่อว่า ซูชิมีต้นกำเนิดมาจากประเทศแถบเอเชียนตะวันออกเฉียงใต้ โซนที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งข้าวทั้งปลา และมีวัฒนธรรมการถนอมอาหารให้คงอยู่เป็นเวลานาน โดยเฉพาะปลาที่จะนำมาหมักโดยมีส่วนผสมของข้าวด้วย เช่น ปลาร้า และ ปลาส้ม ซึ่งวัฒนธรรมเหล่านี้เข้าไปสู่ญี่ปุ่น โดยผ่านทางประเทศจีนนั่นเอง

ซูชิดั้งเดิม ของญี่ปุ่น จะใช้ปลาหมักมากินคู่กับข้าว แต่ต่อมาใน สมัยเอโดะ ได้เปลี่ยนมาใช้เป็นของทะเลสดๆ แทน และมีเครื่องเคียงเป็น ขิงดอง ที่มีคุณสมบัติช่วยในการฆ่าเชื้อโรค ส่วนในปัจจุบันมีให้เห็นกันหลากหลายหน้าท็อปปิ้ง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาโอ ปลาไหล ปลาหมึก กุ้ง ไข่หวาน ไข่ปลา ไข่กุ้ง สาหร่าย และอื่นๆ อีกหลายหน้า

แล้วรู้หรือไม่? ซูชิแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ด้วยนะ

นิงิริซูชิ (Nigiri Sushi)

     เป็นซูชิ ที่พบได้บ่อยที่ภัตตาคาร มีลักษณะข้าวเป็นก้อนรูปวงรีแล้ววาง เนื้อปลาดิบ ปลาหมึก เป็นต้น ไว้ข้างบน ใส่วาซาบิบนข้าวเล็กน้อย หรือตกแต่งด้วยสาหร่ายทะเลก็ได้ ซูชิแบบนี้ เป็นที่นิยมมากที่สุด

มากิซูชิ (Maki Sushi) มีวิธีทำ 3 แบบด้วยกัน คือ 

  1. ม้วนข้าวไว้ด้านใน สาหร่ายทะเลอยู่ด้านนอก 

  2. ม้วนสลับกับแบบแรก โดยที่สาหร่ายอยู่ด้านในส่วนข้าวอยู่ด้านนอก 

  3. ห่อเป็นรูปกรวย เรียกว่า แคลิฟอร์เนียเทมากิ แบบนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก

ชิราชิซูชิ (Chirashi Sushi)

     เป็นการจัดปลาดิบ ปลาหมึก กุ้ง ผัก ที่หั่นเป็นชิ้นๆ วางเรียงบนข้าวที่ใส่อยู่ในกล่อง

 โอชิซูชิ (Oshi Sushi)

     หรือรูปแบบคันไซจากเมืองโอซาก้า เอาข้าวมาอัดลงในแม่พิมพ์รูปสี่เหลี่ยมตามยาว หั่นขนาดพอดีให้รับประทานเป็นคำๆ แล้ววางเนื้อปลาไว้ด้านบน 

อินาริซูชิ (Inari sushi)

    ซูชิ ที่นำเนื้อมาใส่ในเต้าหู้ เป็นซูชิห่อในเต้าหู้ หรือบางคนเรียกว่า ซูชิเต้าหู้หวาน

วิธีกินซูชิสไตล์ญี่ปุ่น 

     การกินแบบ คนญี่ปุ่นแท้ๆ จะใช้มือหยิบเข้าปากเลย และไม่นิยมนำ ซูชิด้านที่เป็นข้าวลงไปจุ่มใน โชยุ เพราะข้าวจะหลุดแตกออกมา แต่จะใช้ด้านบนส่วนที่เป็น เนื้อปลา จุ่มลงไปนิดหน่อยแทน และในการ กินซูชิ ชิ้นนั้นจะต้องกินให้หมดภายในคำเดียว เพื่อให้ได้รสชาติของ ซูชิ ครบถ้วน 

ความเชื่อเกี่ยวกับปลาที่นำมาทำซูชิ

     มีเรื่องเล่ากันว่า ในยุคก่อนที่ซามูไรเรืองอำนาจ แม้ว่า คนญี่ปุ่น จะกินปลาบ่อยๆ เป็นอาหารหลัก แต่สำหรับซามูไรนั้นไม่กินปลาทูน่านะ เพราะปลาทูน่า ถือว่าโชคร้าย ในสมัยของซามูไร ปลาทูน่าไม่ได้ถูกเรียกว่า 'มากุโระ' เหมือนตอนนี้ แต่เรียกว่า 'ชิบิ' การออกเสียง 'shibi' ฟังดูเหมือนการอ่าน 'Death Day' (Death=shi, day=bi) ด้วยเหตุนี้ ซามูไร จึงไม่กินปลาทูน่ากัน ไม่ว่าจะเป็น ซูชิ หรือ ซาชิมิ ก็ตาม จนกระทั่งเปลี่ยนชื่อจาก ชิบิมาเป็น มากุโระ ซามูไรถึงกินปลาทูน่า กันตามปกติ! 

     ชาว Sushi Lover ที่กินซูชิเป็นประจำ คงได้รู้ประวัติความเป็นมาของซูชิกันแล้วว่าที่มาที่ไปไม่ธรรมดา มีจุดเริ่มต้นเรื่องราวและความเชื่อที่น่าสนใจ ถือว่าเป็นการค้นพบเมนูอาหารระดับชาติของ ญี่ปุ่น เลยทีเดียว และด้วยความพิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียดอาหารของ คนญี่ปุ่น ทำให้เราได้กินเมนูซูชิอร่อยๆ นี้จนถึงทุกวันนี้ และใครที่รักการ กินซูชิ ต้องนึกถึง ร้านอาหารญี่ปุ่น คาโบฉะ ซูชิ ของเรา ที่ขึ้นชื่อในความอร่อยของซูชิ โดยใช้วัตถุดิบสดใหม่ส่งตรงมาจากตลาดปลาชื่อดังของ ญี่ปุ่น ทำให้คุณได้กินซูชิแสนอร่อยเหมือนที่ญี่ปุ่นเลยล่ะ

พร้อมเสิร์ฟเมนูสดใหม่ของวัตถุดิบล้ำค่า แล้วที่ Kabocha ทุกสาขา 

อิ่มอร่อยได้ที่ร้าน เช็คสาขาใกล้คุณ คลิกที่นี่

หรือสั่งความอร่อยส่งถึงบ้านได้ที่ Kabocha delivery คลิกที่นี่

พร้อมอัพเดทโปรโมชั่นพิเศษทุกเดือน คลิกที่นี่