เวลาไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ หลายคนคงต้องอยากลองอาหารหรือของดีประจำแถบนั้นกันใช่ไหม รู้หรือไม่ว่าที่ญี่ปุ่นมีอาหารท้องถิ่นมากมายที่ซ่อนอยู่ตามเมืองท่องเที่ยวต่าง ๆ วันนี้เราเลยอยากพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับอาหารท้องถิ่นในภูมิภาคย่านคันโต (Kanto) กันครับ ประกอบด้วย 8 จังหวัด ได้แก่ มหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan), จังหวัดอิบะระกิ (Ibaraki), จังหวัดโทชิงิ (Tochigi), จังหวัดกุมมะ (Gumma), จังหวัดชิบะ (Chiba), จังหวัดไซตะมะ (Saitama), จังหวัดคะนะงะวะ (Kanagawa) และจังหวัดยะมะนะชิ (Yamanashi) แต่ละจังหวัดมีอาหารท้องถิ่นอะไรที่น่าลิ้มลองกันบ้างนะ มีเก็บกระเป๋าแล้วบินไปเที่ยวกินแต่ละเมืองกันเถอะ
1. บะหมี่โฮโตะ(Hoto Noodles)
เส้นโฮโตเป็นอาหารประเภทเส้นก๋วยเตี๋ยวแบบหนึ่ง มีลักษณะเส้นกว้างและหนา เหนียวนุ่ม เส้นแบบกว้างวงกลมคล้ายเส้นอุด้งแต่ใหญ่กว่า เป็นบะหมี่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) ทานคู่กับน้ำซุปมิโซะ ที่มีส่วนผสมของผักชนิดต่าง ๆ เช่น แครอท หน่อไม้รวมถึงเนื้อสัตว์อย่างเนื้อวัว เนื้อหมู หรือปลา เพื่อเพิ่มรสชาติและความอร่อยให้กับเส้นโฮโต
2. อุทสึโนะมิยะเกี๊ยวซ่า (Utsunomiya Gyoza)
อุทสึโนะมิยะเกี๊ยวซ่า เป็นเมนูอาหารที่มีชื่อเสียงมากในเมืองอุทสึโนะมิยะ (Utsunomiya) จังหวัดโทชิงิ (Tochigi) ทำให้มีร้านเกี๊ยวซ่ามากมายให้เลือกทาน ลักษณะเกี๊ยวซ่าของที่นี่จะมีความบางและกรอบ ในขณะที่อีกข้างจะนุ่มและชุ่มฉ่ำไปด้วยรสชาติของเนื้อสัตว์ที่ถูกปรุงรสเป็นอย่างดี ตัวเกี๊ยวทำจากแป้งสาลี ส่วนใส่ด้านไหนเป็นเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู กุ้ง หรือเนื้อไก่ ผสมกับผักทั้งผักกาดขาว กุยช่าย และกะหล่ำปลี และเครื่องปรุงรสต่างๆ เช่น น้ำมันงา ซอสถั่วเหลือง เป็นต้น ทำให้รสชาติของอุทสึโนะมิยะเกี๊ยวซ่ามีรสชาติที่เข้มข้น บางร้านอาจมีน้ำจิ้มเกี๊ยวซ่าให้ทั้งแบบซอสหวานและซอสเผ็ดด้วย ส่วนร้านเกี๊ยวที่แนะนำ เช่น masashi gyoza, minmin gyoza (みんみん)
3. มงจะยากิ (Monjayaki)
เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงของโตเกียวแถว ๆ ย่านอะซะกุสะ (Asakusa) และย่านทสึกิชิมะ (Tsukishima) มีลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ ที่ประกอบด้วยส่วนผสมที่ทำจากแป้งปรุงรสด้้วนซอส จากนั้นใส่วัตถุดิบต่าง ๆ ลงไป เช่น หมู กุ้ง ปลาหมึก ผักอย่างกะหล่ำปลี หรือขิงดอง แล้วนำไปย่างบนกระทะร้อน ๆ หน้าตาก็คล้ายกับโอะโคะโนะมิยากิ (Okonomiyaki) เลย แต่จะต่างกันตรงที่มงจะยากิจะมีลักษณะที่เป็นแป้งเหลวกว่าเพราะไม่มีการผสมไข่นั่นเอง
4. อังโคนาเบะ (Anko Nabe)
หม้อไฟปลาอังโค เป็นอาหารที่ใช้ปลาอังโคมาต้มในหม้อที่เรียกว่า “หม้อนาเบะ (Nabe)” ซึ่งเป็นวิธีการปรุงอาหารโดยการนำวัตถุดิบทั้งหมดใส่รวมกันลงไปในหม้อเดียว จากนั้นเติมน้ำซุปลงไป รอจนเดือนจึงค่อยทาน ปลาอังโคเป็นปลาที่อยู่ในบริเวณท้องทะเลอิบะระกิ (Ibaraki) อาศัยอยู่ในน้ำลึก ทานได้ทุกส่วน มีไขมันน้อยมาก จนเป็นอาหารท้องถิ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น ปลาอังโคจะอร่อยที่สุดในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ โดยเฉพาะส่วนตับถ้าใครได้ลองต้องติดใจ
5. ราเมงเต้าหู้ (Tofu Ramen)
เป็นราเมงที่ใช้เต้าหู้เป็นส่วนประกอบหลักในเมนูอาหาร ประกอบด้วยเส้นราเมงที่เหนียวนุ่ม น้ำซุปโชยุที่ให้รสชาติเค็มหน่อย ๆ ราดท็อปด้วยเต้าหู้ที่ผัดกับหมูสับ ทำให้ได้ราเมงที่รสชาติอร่อยเข้มข้น ใครได้มีโอกาสมีเที่ยวที่จังหวัดไซตะมะ (Saitama) สามารถลองแวะเข้าไปชิมเมนูอาหารท้องถิ่นเด็ด ๆ แต่ละร้านได้เลย
6. เอโดะมาเอะซูชิ (Edomae-Sushi)
เป็นซูชิ (Sushi) ที่เกิดขึ้นในสมัยเอโดะ (Edo) เป็นอาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีการสิบทอดกันมาอย่างยาวนาน มีต้นกำเนิดในแถบคันโต ปัจจุบันนี้เอโดะมาเอะซูชิถือว่าเป็นศิลปะชั้นสูง การทำซูชิที่ต้องใช้จิตวิญญาณของเชฟในการปรุง เพราะซูชิในรูปแบบเอโดะมาเอะจะใช้นิ้วเป็นเครื่องมือหลักในการทำซูชิเป็นหลัก โดยเริ่มจากการปั้นข้าวเป็นก้อนเล็ก ๆ ที่มีขนาดพอดีคำด้วยนิ้วมือที่พลิวไหว จากนั้นวางวัตุดิบสด ๆ ลงไปแล้วปั้นให้สวยงาม ก่อนจะวางเสิร์ฟ
7. ข้าวหน้าปลาชิระซุ (Shirasu-don)
เป็นอาหารท้องถิ่นประจำเมืองคะนะงะวะ (Kanagawa) ประกอบด้วยข้าวสวยที่เติมด้วยปลาชิระซุ (shirasu) ลูกของปลาอิวาชิ (Iwashi) ซึ่งมีขนาดเล็ก หวาน หอมกลิ่นเล็กน้อยของทะเล เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงอื่น ๆ เช่น ต้ม และสาหร่ายหั่นฝอย ราดด้วยน้ำจิ้มสูตรเฉพาะ ถ้าปลาชิระสุที่ใช้มีลักษณะแห้ง จะเรียกเมนูนี้ว่า “ชิริเมงจะโกะ (Chirimenjako)” หากกินดิบ ๆ จะเรียกเมนูนี้ว่า “นะมะชิระซุด้ง (Namashirasu-don)” นิยมกินกันในฤดูร้อน เนื่องจากปลาชิระซุมีฤดูกาลมากในช่วงนี้
8. ฟุโตะมะกิซูชิ (Futomaki Sushi)
อาหารเมนูสุดท้ายที่เราแนะนำให้รู้จักกันนี้อยู่ที่ชิบะ (Chiba) อาหารท้องถิ่นที่อยู่ในแถบมหาสมุทรโบโซ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่อง “มะกิซูชิ (Makizushi)” ซูชิม้วนลวดลายต่าง ๆ ที่นิยมทานกันในเทศกาลสำคัญ ๆ วัตถุดิบหลักจะมีข้าวซุเมะชิย้อมสีเพื่อที่จะได้ครีเอทลวดลายของซูชิได้มากขึ้น ผสมกับน้ำส้มสายชู จากนั้นห่อด้วยไส้ที่มีตั้งแต่ไข่ทอด ผักอะโอะนะ ผักดอง หรือสาหร่ายเป็นต้น ซึ่งตัวไส้จะมีการจัดวางตอนม้วนเป็นอย่างดีเผื่อที่ตัดออกมาแล้วจะเห็นเป็นลวดลายต่าง ๆ ทั้งดอกไม้ ผีเสื้อ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้เป็นอาหารท้องถิ่นชื่อดังตามย่านต่าง ๆ ในแถบคันโต เพื่อน ๆ คนไหนถ้าได้ไปเที่ยวตามเมืองต่าง ๆ เหล่านี้อย่าลืมลองสั่งดูนะครับ สำหรับใครที่ไม่ได้ไปไหนแต่อยากลองเอโดะมาเอะซูชิ อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมสามารถมาทานได้ที่ร้าน Kabocha sushi ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยมที่คัดเฉพาะวัตถุดิบคุณภาพพรีเมี่ยมจากตลาดปลาญี่ปุ่นมาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร เพื่อคงความเป็นอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับเอาไว้ พร้อมกับเชฟอาหารญี่ปุ่นมากประสบการณ์ที่ปั้นซูชิวาดลวดลายอย่างพลิวไหวค่อย ๆ ปั้นข้าวอย่างปราณีต เพราะอาหารที่ดีต้องเกิดจากรสชาติที่อร่อย หน้าตาที่ดูดี และกลิ่นที่หอม สำหรับใครที่ไม่สะดวกมาทานที่ร้านเรามีบริการ delivery ส่งอาหารถึงหน้าบ้านด้วยนะครับ เพื่อให้คุณสามารถมีความสุขระหว่างมื้อได้สะดวกในราคาและมาตรฐานเดียวกัน