“ปีชง” ความเชื่อและวิธีแก้เคล็ดของ คนญี่ปุ่น

               ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อ แต่ละประเทศก็มีความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป คนญี่ปุ่น ก็มี "ปีชง" เช่นกัน ปีชง ในภาษาญี่ปุ่น เรียกว่า 厄年(yakudoshi) 厄 (yaku) แปลว่า ความทุกข์ทั้งหลาย ซึ่งหมายถึงการเจ็บไข้ได้ป่วย ประสบอุบัติเหตุ มีเรื่องไม่สบายใจ มีหนี้สิน มีเรื่องเครียด เรื่องเศร้าเสียใจต่างๆ คนญี่ปุ่น ถือว่าในช่วงปีนั้นจะต้องระมัดระวังตัวให้มากกว่าเดิม ซึ่งความเชื่อเรื่องปีชงนี้ ความจริงแล้วมีสืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณกว่า 1, 200 ปี

ความเชื่อเรื่องปีชงของ คนญี่ปุ่น

     ปีชง หรือ ที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “ยาคุโดชิ” (厄年) หรือบางคนจะมองว่าปีเบญจเพสก็ได้ แต่สำหรับ ชาวญี่ปุ่น ปียาคุโดชิจะไม่ได้มีเพียงครั้งเดียวในช่วงชีวิตเช่นเดียวกันกับของคนไทย ซึ่งความเชื่อเรื่องปีชงของคนญี่ปุ่นนั้น ว่ากันว่าเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยเฮอัน อยู่ระหว่างปีค.ศ. 794-1185 โดยไม่ได้มีหลักฐานทางวิชาการมายืนยันอย่างแน่ชัด แต่ว่ากันว่าความเชื่อเรื่องปีชงนี้ เริ่มกลายเป็นธรรมเนียมในหลายพื้นที่ในสมัยนี้เป็นต้นมา ถึงแม้ความเชื่อเรื่องปีชงในแต่ละท้องถิ่นของ ญี่ปุ่น จะแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะใช้วิธีคำนวณ ตามการนับอายุแบบโบราณ โดยจะนับว่าปีที่เกิดถือเป็นปีที่มีอายุ 1 ขวบ และหลังจากนั้นอายุก็จะเพิ่มขึ้นอีก 1 ปีเมื่อถึงวันขึ้นปีใหม่ในทุกครั้ง

     และตามความเชื่อในปีที่เป็นปีชงของ คนญี่ปุ่น มักจะคิดว่าจะมีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นได้ง่าย ทำให้เป็นปีนั้น ต้องดำเนินชีวิตอย่างมีสติและรอบคอบกว่าว่าปีปกติ โดยปีชงของคนญี่ปุ่น เชื่อกันว่าจะยาวนานติดต่อกันราว 3 ปีในแต่ละครั้ง โดยแบ่งเป็นปีก่อนปีชง ปีชง และปีส่งท้ายปีชง โดยปีชงของผู้หญิงกับผู้ชายจะอยู่ในช่วงอายุที่แตกต่างกันออกไป

ปีชงของผู้หญิง

     ตามความเชื่อของคนญี่ปุ่น ว่ากันว่าปีชงของผู้หญิงจะอยู่ที่อายุ 4 ปี  13 ปี  19 ปี  33 ปี  37 ปี  61 ปี โดยจะมีปีชงที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ อายุ 33 ปี เมื่อนับรวมปีก่อนและปีหลังปีชงแล้ว คนญี่ปุ่น จึงเชื่อว่าผู้หญิงเมื่อเริ่มเข้าสู่วัย 30 นั้นเป็นช่วงที่ควรต้องระวังตัวเป็นพิเศษนั่นเอง

ปีชงของผู้ชาย

     จะอยู่ที่ช่วงอายุ  4 ปี 13 ปี 25 ปี  42 ปี  61 ปี โดยปีชงของผู้ชายที่ว่ากันว่าเป็นช่วงที่ต้องระวังตัวเป็นพิเศษก็คือ อายุ 42 ปี ซึ่งว่ากันว่าจะเกิดภัยพิบัติและความโชคร้ายขึ้นได้ง่าย และควรจะระวังตัวตั้งแต่ปีก่อนหน้าปีชงกันเลยทีเดียว

เมื่ออายุถึงหรือเข้าเกณฑ์ปีชง ก็จะมีวิธีแก้เคล็ดในแบบฉบับของคนญี่ปุ่น

พอเข้าปีชง คนญี่ปุ่นก็จะไปวัดหรือศาลเจ้าที่นับถือ คล้ายๆ กับคนไทยที่จะเข้าไปไหว้พระขอพร แต่คนญี่ปุ่นเข้าวัด หรือ ศาลเจ้า เพื่อทำพิธีขจัดโชคร้าย ซึ่งคนญี่ปุ่นเรียกกันว่า 厄払い(yakubarai) โดยวิธีขจัดโชคร้ายจะมีด้วยกันอยู่ 3 อย่าง ดังนี้

1. เข้าไปหาพระที่วัด หรือ ศาลเจ้า เพื่อให้สวดมนต์ขจัดสิ่งไม่ดีและความโชคร้ายออกไป คนญี่ปุ่นจะเรียกพิธีนี้ว่า 祈祷料 kitouryo ซึ่งพิธีนั้นก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัด หรือ ศาลเจ้าที่ไป รูปแบบการทำพิธีก็จะต่างกันเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าไปคนเดียว หรือทำพร้อมกับคนอื่นเป็นหมู่คณะ โดยราคาคร่าวๆ ก็จะอยู่ที่ 3,000-10,000 เยน 
2. หาซื้อเครื่องรางแบบกระดาษ ที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า 御札(ofuda) เพื่อนำไปไว้ในบ้าน
3. หาซื้อเครื่องรางอันเล็กๆ ที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า お守り(omamori) สำหรับพกติดตัวไว้ เวลาเดินทางไปไหนนอกบ้าน

                 อ่านมาถึงตรงนี้ ทาง คาโบฉะ ซูชิ อยากจะแนะนำศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ที่คนญี่ปุ่น ชอบไปเพื่อทำพิธีและขอให้ขจัดเรื่องร้ายๆ พร้อมขอพรกันมากมาย แต่ศาลเจ้าที่ชื่อว่า Sumiyoshi Taisha (住吉大社) เป็นศาลเจ้าอยู่ที่ โอซาก้า ที่นี่ถือว่าเป็นศาลเจ้าเก่าแก่และสวยงามมากแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นตั้งแต่สมัย 1800 ปี ภายในเป็นที่ประดิษฐาน เทพเจ้าคามิ (Kami) ทึ่คุ้มครองนักเดินทาง และ ชาวเรือ ด้านในสถานที่นั้น กว้างขว้าง มีต้นไม้ และธรรมชาติสวยงาม ทุกปีในช่วงปีใหม่ ผู้คนราว 2 ล้านคนจะมาเยี่ยมวัดนี้ไม่ว่าจะเป็นปีชงหรือไม่ก็ตาม 

ข้อมูลการเยี่ยมชม Sumiyoshi Taisha

ที่ตั้ง: 2-9-89 Sumiyoshi, Sumiyoshi-ku, Osaka 558-0045

การเดินทาง : 

(รถไฟ) เดิน 5 – 10 นาที จาก Sumiyoshi Taisha Station [Nankai Main Line]

(รถราง) เดิน 3 นาที จาก Sumiyoshikoen-Torimae Station [Hankai Uemachi Line]

เวลาทำการ:

เมษายน – กันยายน เปิด 6:00 – 17:00 น.

ตุลาคม – มีนาคม เปิด 6:30 – 17:00 น.

ร้านขายของที่ระลึก เปิด 9:00 – 17:00 น.

ค่าเข้าชม : ฟรี

                สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่าถึงแม้ว่าปีชงจะเจอเรื่องร้ายหรือไม่นั้น จริงๆ แล้วก็อาจจะเกิดแค่บางคนเท่านั้น บางคนก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย คนญี่ปุ่นจึงการพยายามดูแลรักษาตัวเองให้ดี เพื่อเป็นการช่วยเรื่องปีชงอีกทาง นอกจากนี้ยังเชื่อว่าการทำความดี การช่วยเหลือผู้คนที่กำลังประสบความลำบาก ก็จะทำให้จิตใจดีมีความสุข และย่อมพาให้เจอแต่โชคดี เหมือนที่คนไทยเชื่อแบบเดียวกัน