รู้ยัง? อาหารญี่ปุ่น ฟาสต์ฟู้ดมีตั้งแต่สมัยเอโดะ
เมื่อพูดถึง ‘อาหารจานด่วน’ คนไทยทั่วไปอาจเข้าใจว่าเป็นอาหารจำพวกเดียวกับ ‘ฟาสต์ฟู้ด’ คือเป็น อาหารญี่ปุ่น ที่ปรุงและทำเสร็จภายในเวลาอันรวดเร็ว บริโภคได้ทันที ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ชีวิตที่เร่งรีบ ซึ่งเป็นที่นิยม เป็นอย่างมากทั่วโลก ชาวญี่ปุ่น ก็เช่นกัน ฟาสต์ฟู้ด หรือ อาหารจานด่วนนั้น อยู่คู่กับวัฒนธรรม การกินมานานตั้งแต่ สมัยเอโด ะหรือกว่า 300 กว่าปีมาแล้ว วันนี้ คาโบฉะ ซูชิ จะพามารู้จักอีกมุมวัฒนธรรมการกินของ คนญี่ปุ่น สมัยเอโดะกันค่ะ
ต้นกำเนิด “Edomae Sushi” หรือ ฟาสต์ฟู้ดเอโดะแห่งศตวรรษที่ 19
เริ่มจากบันทึกทาง ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ซึ่งเขียนไว้ว่า เชฟซูชิจากเอโดะผู้มีนามว่า ฮานะยะ โยเฮ (Hanaya Yohei) ซึ่งริเริ่มวัฒนธรรม “Edomae” ถ้าแปลตรงๆ “Edo” คือ สมัยเอโดะ และ “mae” คือ ด้านหน้าอ่าวโตเกียว ซึ่งอ่าวแห่งนี้เต็มไปด้วย ปลา และ สัตว์น้ำในอดีต ที่มีอาหารอันโอชะอย่าง กุ้ง หอย ปลาไหล และปลาหมึก และ มีการริเริ่มเพื่อเพิ่มอายุการเก็บรักษาวัตถุดิบ และดึงเอารสชาติที่ดีที่สุดของอาหารออกมาให้มากที่สุด
เรื่องนี้ถูกจารึกไว้ในแผ่นโลหะ และมีคำอธิบายบนแผ่นโลหะว่า เชฟได้คิดค้นซูชิแบบใหม่โดยใช้ส่วนผสม น้ำส้มสายชู ข้าว หรือเรียกอีกอย่างว่า “shari” คือ การนำเอา ข้าวซูชิ ซึ่งเหนียวและเปรี้ยวเล็กน้อยเป็นฐาน พร้อมวางเนตะ รือท็อปปิ้งอาหารทะเลไว้ด้านบน และกดให้ติดกันด้วยมือ ให้มีขนาดพอดีคำ นอกจากนี้เชฟโยเฮยังได้พัฒนาเทคนิคมากขึ้น โดยการตุ๋นใน ซุปดาชิ หรือ น้ำซุปปลา แต่น่าเสียดายที่ช่วงนั้น อาหารญี่ปุ่น แบบใหม่ของ เชฟโยเฮ ไม่ค่อยได้รับความนิยมในตลาดช่วงแรก เขาจึงคิดมองหากลยุทธ์ เพื่อที่จะขายสินค้าของตนเอง ต่อมาจึงได้สร้างแผงขายอาหารที่สามารถเตรียมอาหารต่อหน้าลูกค้า และได้ให้ลูกค้าได้ลิ้มลองอาหารญี่ปุ่น แบบใหม่ที่ได้คิดค้นขึ้นมานั้นประสบความสำเร็จ และครั้งนี้จึงถือเป็นการกำเนิดของ Edomae Sushi หรือฟาสต์ฟู้ดเอโดะ แห่งศตวรรษที่ 19
Photo Credit: sushiuniversity
โซบะ ซูชิ และ เทมปุระ 3 เมนู อาหารญี่ปุ่นฟาสต์ฟู้ด ในสมัยเอโดะที่ต้องนึกถึง
หลังจากเชฟโยเฮประสบความสำเร็จในการทำ ฟาสต์ฟู้ด เมนูโซบะ ซูชิ และ เทมปุระ ก็ถือเป็นมื้ออาหารในยามเร่งด่วนของชาวเมืองเอโดะไปเลย และบรรยากาศภายในเมืองเอโดะ ก็จะเริ่มเต็มไปด้วยแผงลอยและ ร้านหาบเร่ เดินขายอยู่ทั่วทุกที่ ซึ่งหาบเร่จะมีความคล้ายกับที่ไทยอยู่เหมือนกัน แต่จะแตกต่างก็ตรงที่ชาวเอโดะจะไม่มีตะกร้า แต่จะใช้ชั้นที่ทำจากไม้ 3 ชั้นแทน สำหรับใส่ชาม ตะเกียบ เส้นโซบะ หม้อ รวมถึงเตาสำหรับอุ่น ส่วน ซูชิ และ เทมปุระ ในสมัยเอโดะนั้น บอกได้เลยว่าเป็นสวรรค์ของ คนเลิฟซูชิ และ เทมปุระมาก เพราะสามารถซื้อ ทานซูชิ หรือ เทมปุระที่ทำเสร็จใหม่ๆ ได้ทันทีในราคาที่ไม่แพงตามแผงลอยเล็กๆ ข้างทาง แถมซูชิใน สมัยเอโดะ นั้นจะชิ้นใหญ่กว่า ซูชิ ในปัจจุบันมาก ส่วนเทมปุระนั้นในสมัยเอโดะจะเป็นวิธีเสียบไม้ เพื่อให้ทานง่าย ไม่เลอะมือ
Photo Credit: tokyoweekender
ทำไมเอโดะฟาสต์ฟู้ดจึงเป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่น
วัฒนธรรมเอโดะ ฟาสต์ฟู้ดนั้นเกิดขึ้น สภาพสังคมในช่วงเวลานั้นหรือ รสนิยมของ ชาวญี่ปุ่น ในสมัยนั้น สรุปได้ดังนี้
- ชาวเมืองเอโดะ มีนิสัยที่ใจร้อน ชอบความรวดเร็ว จึงมักจะชอบทานเมนูอะไรก็ได้ ที่ง่ายๆ ไม่ต้องคอยนาน
- สนองไลฟ์สไตล์ของ แรงงานชายโสด เพราะหลังจากเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ใน เมืองเอโดะ เมื่อ ค.ศ. 1657 สิ่งก่อสร้าง บ้านเรือนได้ถูกทำลายจากไฟไหม้เป็นจำนวนมาก รัฐบาลช่วงสมัยนั้นจึงได้เรียกแรงงานชายจำนวนมาก จากต่างภูมิภาคเข้ามาใน เอโดะ เพื่อบูรณะเมือง และที่สำคัญแรงงานส่วนใหญ่ที่เข้ามานั้น เป็นชายโสด ยังไม่มีครอบครัวซะส่วนใหญ่ ชายโสดเหล่านี้จึงไม่นิยมทำอาหารกิน จึงนิยมออกไปกินอาหารนอกบ้านกัน อีกทั้งสมัยเอโดะนั้น ฟาสต์ฟู้ดเริ่มหากินได้ง่าย แถมปรุงเสร็จรวดเร็ว ที่สำคัญราคาไม่แพง
- ป้องกันไฟไหม้บ้าน ชาวเอโดะจึงหลีกเลี่ยงที่จะทำอาหารเอง แล้วหันออกมาข้าวกินนอกบ้านมากขึ้น นอกจากนี้รัฐบาลช่วงสมัยนั้น ก็เห็นด้วยจึงมีนโยบายป้องกันอัคคีภัย จากการปรุงอาหาร จึงได้จัดทำพื้นที่ว่าง พร้อมเปิดพื้นที่ริมถนนไว้ให้คนเมืองได้ออกมาซื้อขายอาหารกัน และด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ วัฒนธรรมเอโดะฟาสต์ฟู้ด แผ่ขยายได้เร็วมากยิ่งขึ้น
แต่ถ้าใครอ่านแล้วน้ำลายไหลอยาก กินซูชิ เทมปุระ รสชาติที่ทำให้นึกถึง อาหารญี่ปุ่น มาเลยค่ะ ที่ kabocha sushi (คาโบฉะ ซุชิ) เพราะที่นี่เน้นวัตถุดิบสดใหม่ส่งตรงมาจาก ญี่ปุ่น มีความสดชุ่มฉ่ำของวัตถุดิบทุกเมนูเสมือนเมนูของเชฟโยเฮเลยก็ว่าได้
พร้อมเสิร์ฟเมนูสดใหม่ ของวัตถุดิบล้ำค่า แล้วที่ Kabocha ทุกสาขา
อิ่มอร่อยได้ที่ร้าน เช็คสาขาใกล้คุณ คลิกที่นี่
หรือสั่งความอร่อยส่งถึงบ้านได้ที่ Kabocha delivery คลิกที่นี่
พร้อมอัพเดทโปรโมชั่นพิเศษทุกเดือน คลิกที่นี่