หน้าร้อนผ่านไป ฤดูใหม่กำลังจะมา.. ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เป็นอีกฤดูที่สวยงามที่สุดของ ญี่ปุ่น ด้วยสภาพอากาศที่เริ่มเย็นลงเราจึงเห็นผู้คนมากมายออกมาเดินเล่น ชมใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีแดง สีส้ม หรือสีเหลืองที่เรียงรายอยู่ข้างทาง และยังมีกลิ่นหอม ๆ ของอาหาร โชยมาชวนให้รู้สึกอยากกินเพิ่มขึ้นไปอีก มันเป็นความรู้สึกที่กินเท่าไหร่ก็ไม่พอ! ความรู้สึกอยากทานอาหารเพิ่มขึ้น ในฤดูใบไม้ร่วง นี้เป็นเรื่องปกติของ คนญี่ปุ่น แต่ทำไมกัน? ลองติดตามอ่านดูนะครับ แล้วคุณจะรู้ว่าทำไม ?
Shokuyoku no Aki (食欲の秋) คือ “ความอยากอาหารในฤดูใบไม้ร่วง''
ว่ากันว่า ฤดูใบไม้ร่วง เป็นช่วงเวลาที่ทำให้รู้สึกถึง “ความอยากอาหาร” แต่ทำไม ความอยากอาหาร ถึงเพิ่มมากขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงกันล่ะ? มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับ ที่มาของความอยากอาหาร ในฤดูใบไม้ร่วงเลยครับ
ทฤษฎีแรกจะพูดในแง่ของการทำงานของร่างกาย เนื่องจากสภาพอากาศส่งผลต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะความร้อนและความเหนื่อยล้าจากแสงแดด ในฤดูร้อน จะส่งผลให้ ความอยากอาหารลดลง พอมาถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงอากาศเริ่มเย็น อุณหภูมิภายในร่างกายเริ่มลดลง ทำให้เมตาบอลิซึมของร่างกายต้องทำงานเพิ่มมากขึ้น เพื่อรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ ร่างกายจึงใช้พลังงานมากกว่าฤดูร้อน ทำให้เรารู้สึกหิวขึ้น
อีกทฤษฎีบอกว่า มันเกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาทที่เรียกว่า "เซโรโทนิน" หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ฮอร์โมนแห่งความสุข" ฮอร์โมนชนิดนี้ช่วย ควบคุมความอยากอาหาร ได้ด้วยนะครับ เพราะถ้าร่างกายหลั่งสารตัวนี้น้อย จะยิ่งทำให้มี ความอยากอาหารมากขึ้น
และทฤษฎีสุดท้าย บอกว่าในสมัยก่อน คนญี่ปุ่น จะปลูกพืชผักผลไม้ตามท้องไร่ท้องนา และมักจะถึงเวลาเก็บเกี่ยว ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงพอดี เมื่อเห็นผักผลไม้ออกมาวางขายกันเต็มไปหมด ตามร้านอาหารต่าง ๆ ก็นิยมนำไปเป็นวัตถุดิบในการ ทำอาหาร ตามฤดูกาล ทำให้เรายิ่งอยากทานมากขึ้น แม้ว่าส่วนใหญ่ในปัจจุบัน คนญี่ปุ่น เริ่มหันมาปลูกพืชผลในโรงเรือนกันบ้างแต่ความอร่อยก็ไม่สามารถผลไม้ที่เก็บเกี่ยวในฤดูได้ เพราะมีของกินมากมายให้เลือกกินไม่มีเบื่อ
เห็นอาหารน่าทานเยอะขนาดนี้ คนญี่ปุ่นเองก็เริ่มกังวลใจ กลัวตัวเองอ้วนขึ้นเพราะอดที่จะกินทุกอย่างไม่ได้ ใครที่ชอบกินแต่กังวลเรื่องน้ำหนักลองมาดู เคล็ดลับควบคุมอาหารของคนญี่ปุ่น กันต่อเลย
เคล็ดลับกินไม่อ้วน สไตล์คนญี่ปุ่น
1. ควบคุมอาหารในแต่ละมื้อ
อาหารแต่ละมื้อ สำคัญมาก เราสามารถลดน้ำหนักโดย กินอาหาร ให้ครบทุกมื้อได้โดยไม่ต้องอด แต่ควรควบคุมปริมาณให้ได้สัดส่วนที่ดีมีประโยชน์ ส่วนแรกคือ “ผักและสาหร่าย” เพราะทั้งสองนี้อุดมไปด้วย ใยอาหาร ที่ช่วยดูดซับน้ำใน กระเพาะอาหาร ได้ดี ทำให้อิ่มได้ง่ายขึ้น อีกทั้ง ใยอาหาร ยังช่วยยับยั้งการดูดซึมน้ำตาลใน ทางเดินอาหาร มีคุณสมบัติที่เคลื่อนไหวได้ช้าจึงทำให้รู้สึกอิ่มนาน อีกส่วนคือ “โปรตีน” สำหรับโปรตีนนั้นควรเลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันและปลาเป็นหลักจะดีที่สุด และสุดท้ายเป็น “คาร์โบไฮเดรต” เช่น ข้าวและขนมปัง อาจจะเลือกที่เป็นข้าวกล้อง หรือขนมป้งโฮสวีต เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันและช่วยให้คุณอิ่มท้องเร็วขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้คุณกินมากเกินไป
2. เคี้ยวให้นานขึ้น
การกินอาหารที่รวดเร็ว เป็นสิ่งที่ทำให้คุณ กินอาหารได้เยอะขึ้น อย่างไม่รู้ตัว การกินอาหาร ในแต่ละครั้งควรกินช้า ๆ และใช้เวลาเคี้ยวให้นาน แนะนำว่าให้เคี้ยวประมาณ 30 ครั้งต่อคำจะช่วยได้ดีที่สุด เพราะ การเคี้ยวอาหาร จะช่วยกระตุ้นสารที่เรียกว่าฮิสตามีน สารที่ยับยั้งความอยากอาหาร ได้ดี รู้ยังงี้แล้วคราวหน้าต้องเคี้ยวให้นาน ๆ และละเอียด ๆ นะครับ
3. ดื่มน้ำร้อนช่วยได้
น้ำร้อน ๆ ช่วยลดน้ำหนักได้เพราะน้ำไม่ได้ช่วยแค่ให้รู้สึกอิ่มขึ้น แต่ยังทำให้ร่างกายอบอุ่นและช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีนะ หากคุณดื่มน้ำร้อนเป็นประจำทุกวันจะยิ่งช่วยเพิ่มการเผาผลาญอีกด้วย ซึ่งอุณหภูมิของน้ำที่อยากแนะนำอยู่ที่ 50 องศาเซลเซียส แต่ไม่ต้องเป๊ะขนาดนั้นก็ได้ครับ เอาที่เราสามารถดื่มได้
รู้เทคนิคที่กินแล้วไม่อ้วนกันแล้ว เราก็ไป ลุยกินอาหารอร่อย ๆ ในฤดูใบไม้ร่วง กันต่อเลย…
อาหารฤดูใบไม้ร่วง ที่กินแล้วไม่อ้วน
1. มันเทศ
เมื่อพูดถึง อาหารในฤดูใบไม้ร่วง มันคือมันเทศเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมันเทศมีวิตามินซีที่มีคุณสมบัติด้านต้านอนุมูลอิสระ และ วิตามินอี ที่สามารถป้องกันริ้วรอยก่อนวัยได้ นอกจากนี้ หนังมันเทศยังมีส่วนผสมที่เรียกว่า “ยาลาปิน” ที่ช่วยให้อุจจาระนิ่มลง ขับถ่ายได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่ท้องผูกบ่อย ๆ
2. สารพัดเห็ด
ฤดูใบไม้ร่วง เป็นฤดูเก็บเกี่ยวเห็ด เราจึงมักเห็ดหลาย ๆ ชนิด ได้แก่ เห็ดมัตสึทาเกะ เห็ดชิตาเกะ และเห็ดไมตาเกะ เห็ดเหล่านี้มีวิตามินบี วิตามินดี แร่ธาตุ เช่น โพแทสเซียมและฟอสฟอรัส และ ใยอาหาร ค่อนข้างมาก แถมยังมีแคลอรี่ต่ำ แม้ว่าจะแตกต่างกันไปตามชนิด จึงช่วยให้อิ่มเร็ว และอิ่มนาน
3. ปลาซัมมะ
ปลาชนิดนี้ได้ชื่อว่าเป็น ปลาในฤดูใบไม้ร่วง ถ้าใครได้ลองกินปลาซัมมะย่างจะต้องติดใจ เพราะจะมีเนื้อเยอะติดมัน ทั้งยังมีรสชาติแบบอูมามิและอร่อยมาก ตัวปลายังมีธาตุเหล็กที่ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง และแคลเซียมในการเสริมสร้างกระดูก
4. หอยนางรม
ฤดูกาล สำหรับหอยนางรมมากากิจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเมษายน มีลักษณะตัวใหญ่อวบอ้วน รสชาติที่เข้มข้น กลมกล่อมแบบสุด ๆ ตัวหอยนางรมมีสังกะสีที่ช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญของร่างกายได้ดี
5. ฟักทอง
ฟักทองมีวิตามิน ธาตุเหล็ก แคลเซียม และอื่น ๆ อีกมากมาย สามารถทำได้ทั้ง เมนูอาหารคาว และ อาหารหวาน จะใช้เป็นวัตถุดิบหรือเครื่องเคียงก็ได้ กินคู่กับอะไรก็ดูเข้ากันไปหมด
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ อยากจะเชิญทุกคนมาทาน อาหารญี่ปุ่น ที่ คาโบฉะ (Kabocha) กัน เพราะเราเชื่อว่า มื้ออาหารที่ดี กับประสบการณ์พิเศษ จะช่วยสร้างความสุขให้กับทุกคนได้ ด้วยความพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด และความมุ่งมั่นที่รังสรรค์เมนูต่าง ๆ เพื่อให้ทุกคนได้ กินอาหารญี่ปุ่นที่อร่อย สดใหม่ และดีที่สุด!!! แล้วพบกันนะครับ