หากใครที่ชื่นชอบการทานอาหารช่วงค่ำคืน คงนึกถึงร้านรถเข็น หรือร้านอาหารเล็ก ๆ ข้างทาง ที่ญี่ปุ่นเองก็มีร้านอาหารแบบนี้เช่นเดียวกันค่ะ เรียกว่า “ยาไต” เป็นแผงขายอาหารขนาดเล็กที่เริ่มเปิดในช่วงพลบค่ำ และเปิดตลอดทั้งคืนไปจนถึช่วงประมาณ ตี 3 ตี 4 โดยวันและเวลาเปิดปิดขึ้นอยู่กับเจ้าของแต่ละรายและสามารถเปลี่ยนตลอดเวลาตามสภาพอากาศ อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าถนน สตรีทฟู้ดญี่ปุ่น มีที่ไหนบ้าง ตาม Kabocha มาเลย
1. ย่านนะคะสึ (Nakasu) ในฟุกุโอกะ
นะคะสึ ย่านที่เต็มไปด้วยร้านอาหารเล็ก ๆ ผับบาร์ และสถานบันเทิงยามค่ำคืนมากมาย ที่นี่เป็นเหมือนสถานที่รวบรวมร้านอาหารอร่อย ๆ ไว้มากมายที่วางขายกันเรียงรายตามท้องถนน ตรอกซอกซอยต่าง ๆ ตลอดจนริมแม่น้ำที่ให้บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ในย่านนี้ขึ้นชื่อเรื่องของ สตรีทฟู้ดญี่ปุ่น มาก ด้วยความที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่สุดในฟุกุโอกะ จึงมีความมากหน้าหลายตาแวะเวียนมาหาของกิน ปาร์ตี้สังสรรค์ หรือออกมาร้องเพลง คาราโอเกะ ถ้าเพื่อน ๆ ได้มีโอกาสมาเยือนที่นี่อย่าลืมลองแวะชิมอาหารพื้นเมืองอร่อย ๆ เช่น ฮากาตะราเมน (Hakata Ramen ) ยากิโทริ หรือไก่ย่างเสียบ (Yakitori) และโอเด้ง จากผัก เต้าหู้ ไข่ ปรุงในน้ำซุปดาชิที่อร่อยสุด ๆ ราคาอาหารอยู่ที่ประมาณ 900 เยนเป็นต้นไปได้เลยนะคะ
การเดินทาง: ลงสถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุดคือ สถานี Nakasu-kawabata ทางออกที่ 1,2 หรือ 3 เพื่อออกที่ Nakasu Central Street
เวลาทำการ: ประมาณ 5 โมงเย็น จนถึงประมาณ ตี 4 (เวลาปิดอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
2. ย่านนากาฮามะ (Nagahama) ในฟุกุโอกะ
ย่านตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดใน ฟุกุโอกะ และมี ร้านราเม็งยาไต ขึ้นชื่อมากที่สุดจาก ฮากาตะ เป็นสูตรเฉพาะที่เพื่อนต้องไม่พลาด เพราะทางร้านได้ทำการดัดแปลงและคิดค้นสูตรขึ้นมาใหม่จึงเป็นอาหารที่มีความพิเศษเฉพาะตัวมาก ๆ นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารขนาดเล็กมากมายที่สามารถนั่งได้เพียง 8-10 คนเท่านั้น อาหารที่มีก็มักจะเป็นอาหารง่าย ๆ เช่น ยากิโทริ หม้อไฟ และฮากาตะราเม็ง หลายร้านมีเบียร์ให้ดื่มคู่กับกับแกล้มรสเด็ด จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการดื่มและทานอาหารว่างยามดึกเลยจริง ๆ ค่ะ สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนมาที่นี่แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงวัยอาทิตย์ เพราะร้านส่วนใหญ่จะปิดทำการ แต่ก็มีร้านอาหารเปิดบ้างและพวกเขาจะไปปิดวันอื่นแทนค่ะ
การเดินทาง: ลงที่สถานี Akasaka แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที
เวลาทำการ: โดยปกติจะเปิดเวลา 18.00 น. ถึงประมาณตี 2 (เวลาปิดอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
3. ย่านเทนจิน (Tenjin) ในคิวชู
เทนจินเป็น สตรีทฟู้ดญี่ปุ่น ย่านใจกลางเมืองอันดับหนึ่งในคิวชู บริเวณรอบ ๆ จึงรายล้อมไปด้วยอาคารร้านค้าต่าง ๆ ตั้งเรียงรายอยู่ตามท้องถนน นอกจากนี้มีร้านขายยา ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ และห้างสรรพสินค้าตั้งอยู่ใกล้ ๆ ด้วยค่ะ ด้วยความที่เป็นถนนที่มีของกินเยอะ มีร้านค้ามากมายที่ชอปปิ้งได้ง่าย ย่านนี้จึงเป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว อาหารก็มีขายตั้งแต่ร้านรถเข็นข้างทางเล็ก ๆ รวมถึงร้านอาหารอื่น ๆ ที่มีขนาดเล็กด้วย เมนูอาหารส่วนใหญ่ก็ภาษาอังกฤษและอาจมีภาษาอื่น ๆ เพื่อบริการนักท่องเที่ยวมาที่นี่เพื่อน ๆ ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะสั่งอาหารไม่ถูกค่ะ แต่ถ้าใครมาในช่วงเย็นวันศุกร์ อาจต้องรีบมาหน่อยนะ เพราะว่าอาจต้องไปแย่งกับพนักงานออฟฟิศที่ออกมาสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานจนแน่นถนัดตาไปเลยค่ะ
การเดินทาง: ให้ลงที่สถานี Tenjin
เวลาทำการ: ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป ปิดประมาณตี 4 (เวลาปิดอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
4. Hoppy Street ในโตเกียว
มาถึง สตรีทฟู้ดญี่ปุ่นในโตเกียว บ้างค่ะ แน่นอนว่าย่านยอดฮิตทั้งคนไทยและชาวต่างชาติคงหนีไม่พ้นย่านอาซากุสะ ย่านท่องเที่ยวยอดนิยมในโตเกียว เพราะหลายคนต้องมาเยี่ยมชมวัด Sensoji หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรมาเยือนเมื่อมาถึงโตเกียว ใกล้ ๆ กันจะมีซุ้มอาหารที่มีทั้งของคาว และของหวานที่เปิดกันตั้งแต่ช่วงสายไปจนถึงดึกดื่นเพื่อบริการนักท่องเที่ยว เสน่ห์อย่างหนึ่งของซุ้มอาหารที่นี่คือ ซื้อเราต้องถือกินค่ะ ใครมาถึงร้านอย่างลืมลองทานไอศกรีม น้ำแข็งใส หรือของปิ้งย่างดูนะคะ ถัดมาอีกหน่อยประมาณ 80 เมตร จะเป็นสตรีทฟู้ด ซึ่งสองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านอาหาร และร้านอิซากายะ หรือผับญี่ปุ่นที่หลายเรียงรายกันเต็มไปหมด จุดเด่นของที่นี่คือ จะเป็นร้านอาหารหลังคาผ้าใบยื่นออกมา มีโต๊ะกลมเล็ก ๆ ตั้งเตรียมรอต้อนรับลูกค้าที่แวะเวียนมาในแต่ละวัน เมื่อเข้าไปตามตรอกต่าง ๆ เราก็จะเห็นร้านอาหารเหล่านี้เต็มไปหมดทำเอาเพื่อน ๆ เลือกไม่ถูกเลยว่าจะเข้าร้านไหนดี
การเดินทาง: สถานี Asakusa ทางออกหมายเลข 6 แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
เวลาทำการ: ประมาณ 11.00-23.00 น. (เวลาปิดอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
5. ย่านคุราโมโตะ-โดริ (Kuramoto Dori) ในฮิโรชิม่า
ย่านคุราโมโตะ-โดริ เป็น สตรีทฟู้ดญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่บนถนนอิฐสีแดงขนานกับลำคลองยาวดูคลาสสิก ปกติที่พื้นที่นี้เป็นสถานที่สำหรับออกกำลังกาย หรือเดินเล่น พอตกเย็นมาก็จะกลายเป็นแหล่งของแผงขายอาหารต่าง ๆ ตั้งเรียงรายกันเต็มไปหมด ในช่วงหน้าหนาวร้านต่าง ๆ จะพากันนำพลาสติกใสมาปิดเพื่อป้องกันลมหนาวให้กับลูกค้า ด้วยขนาดภายในร้านที่ไม่ได้ใหญ่มาก มีที่นั่งแค่จำกัด ทำให้เพื่อน ๆ สามาถพูดคุยหรือทำความรู้จักกับลูกค้ารายอื่นได้ ซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของร้านอาหารแบบนี้เลยค่ะ อาหารที่นี่ก็มีมากมาย เช่น ยากิโทริ โอเด้ง ยากิโทริ และราเมง และที่ควรพลาดไม่ได้เลยคือ โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า แน่นอนว่าอาหารดี ๆ ต้องทานคู่กับเบียร์สดถึงจะฟิน ใครมาถึงที่นี่แล้วต้องไม่พลาดนะคะ
การเดินทาง: ลงสถานี JR Kure แล้วเดินต่อไปประมาณ 5-10 นาที
เวลาทำการ: ตั้งแต่ 18:00 น.เป็นต้นไป (เวลาปิดอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
เป็นยังไงกันบ้างค่ะ กันของกินย่านสตรีทฟู้ดที่ขึ้นชื่อทั้ง 5 ที่ เพื่อน ๆ คนไหนที่มีแพลนจะไปญี่ปุ่นจดลิตต์ไว้เลย เพราะบอกเลยว่าแต่และที่เด็ดมาก เรื่องของกินไม่ต้องพูดถึง สุ่มร้านไหนก็อร่อยเหมือนกันหมด แต่ถ้าใครไม่ได้ไปญี่ปุ่นก็ไม่เป็นไร มาทานอาหารญี่ปุ่นอร่อย ๆ ได้โดยไม่ต้องไปเสี่ยงสุ่มร้านอาหารญีุ่ปุ่นว่าร้านไหนจะอร่อยถูกปากเพื่อน ๆ ไหม เพราะ ร้านอาหารญี่ปุ่นคาโบฉะ ซูซิ (Kabocha Sushi) เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการในไทยมานาน อาหารแต่ละเมนูก็ต้องใจทำให้มีรสชาติเหมือนกับต้นตำรับมากที่สุด แม้แต่วัตถุดิบเราก็คัดสรรมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะกินครั้งไหน ๆ ก้อร่อยถูกปากถูกใจเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนอย่างแน่นอน