“ทสึมะ” ผักเครื่องเคียงใน ซาซิมิ มีประโยชน์กว่าที่คิด

              หากสั่ง เมนูซาซิมิมา ผักที่รองจานที่มากับ ซาซิมิ หลายคนอาจจะดูเหมือนมีประโยชน์ แค่นำมาตกแต่งไว้สวยๆ แต่จริงๆแล้ว เครื่องเคียงเหล่านี้ เชฟญี่ปุ่น ตั้งใจที่จะใส่ลงมาใน จานของซาซิมิสุดๆ เพราะนอกจากจะกินคู่กันแล้ว อร่อยมากกว่าเดิม แถมยังมีเรื่องสรรพคุณที่ดีมากมายต่อร่างกายอีกด้วย 

 

ร้านอาหารญี่ปุ่น kabocha sushi delivery ซาซิมิ ปลาดิบ

 

            เครื่องเคียงของ ปลาดิบ ใน เมนูซาซิมิ (刺身 sashimi) คนญี่ปุ่น จะเรียกกันว่า “ทสึมะ” (Tsuma) นอกจากจะมีหัวไชเท้าฝอยแล้ว ยังมีผักสมุนไพรอื่นๆ ที่สามารถมาทำเป็น ทสึมะ ได้อีกหลายชนิด เช่น ใบชิโซะ เลม่อน ส้มสุดาจิ แครอท แตงกวา เบนิทะเดะ ดอกเบญจมาศญี่ปุ่น โอบะ หรือ สาหร่าย 

 

ร้านอาหารญี่ปุ่น kabocha sushi delivery ซาซิมิ ทสึมะ

                                                                                                                            Cr: 豊臣秀吉像 狩野光信筆 高台寺蔵(Wikimedia Commons) 

 

ร้านอาหารญี่ปุ่น kabocha sushi delivery ซาซิมิ อาหารญี่ปุ่น

                                                                                                                                                                  Cr: sushi university

 

ความเป็นมาของ  “ทสึมะ” (Tsuma)

     ย้อนกลับไปในช่วง ค.ศ. 1185-1333 ยุคสมัยคามาคุระ ประเทศจีน ในช่วงยุคสมัยนั้น นิยมรับประทานปลาดิบ ทั้งปลา ปูและกุ้ง เป็นอย่างมาก โดยจะหั่นเนื้อปลา ปู หรือกุ้งเป็นชิ้นเล็กๆ และ จะทานพร้อมกับผักที่มีกลิ่นฉุน อย่างหอมหรือกระเทียม ซึ่งคนญี่ปุ่น ในสมัยนั้น ก็ได้รับวัฒนธรรมการกินอาหารดิบมาจาก ประเทศจีน เช่นเดียวกัน

และยังแพร่หลายในราชสำนัก ขุนนาง และคนรวย (จากหนังสือ Shijoryu Hochogaki ในปี ค.ศ. 1489) 

ช่วงกลางของยุคสมัยมูโรมาจิ (ค.ศ. 1392-1573) ได้มีวิธีการในทำ เมนูปลาดิบ หรือ ซาซิมิ ซึ่งในหนังสือมีเขียนการเตรียมแบบเป็นขั้นเป็นตอน นั่นคือ การนำเอาปลามาแล่ หั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นนำเนื้อปลาแช่ลงในน้ำส้มสายชูหมัก ใส่เกลือ วาซาบิ ขิงและใบสะระแหน่ ซึ่งส่วนผสมทั้งหมดจะใช้การหมักปลา เพื่อช่วยถนอมเนื้อปลาไม่ให้เน่าเสียเร็ว และยังคงรสชาติของปลา พร้อมทั้งดับกลิ่นคาวของเนื้อปลา ซึ่งส่วนผสมต่างๆ นี้ จึงได้รับการกล่าวขานและถูกเรียกว่า “ทสึมะ” (Tsuma)

หลังจากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป เข้าสู่ช่วงปลายยุค สมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง วิธีการรับประทานซาซิมิขึ้น จากการนำเอาเนื้อปลามาผสมกับ ซอส และ น้ำส้มสายชู เหมือนสมัยก่อน แต่ในยุคนี้การขนส่ง และ การเก็บรักษาปลามีวิธีการที่ดีกว่าแต่ก่อน ทำให้ไม่จำเป็นต้องปกปิดกลิ่น และ รสชาติของปลาอีกต่อไป จึงเริ่มเกิดเมนูแปลกตากว่าแต่ก่อน โดยมีการเสิร์ฟแยกจานกัน ระหว่างเนื้อปลา ผัก และ น้ำซอส 

ตั้งแต่นั้นมา “ทสึมะ” (Tsuma) ก็ถูกเปลี่ยนวัตถุประสงค์หลัก ไปด้วยเช่นกัน 

 

ร้านอาหารญี่ปุ่นใกล้ฉัน คาโบฉะ ซูชิ เดลิเวอรี่ อาหารญี่ปุ่น

 

              ซึ่งในยุคปัจจุบัน “ทสึมะ” (Tsuma) ในจานซาซิมิ ที่มาเสิร์ฟ กลับทำหน้าที่เป็นเพียงแค่สิ่งที่ประดับตกแต่ง อยู่บนจานอาหาร ช่วยทำให้อาหารดูน่าทานพียงเท่านั้น น้อยคนนักที่จะรู้ว่าจริงๆ แล้วมีประโยชน์มากกว่าที่คิด

ประโยชน์ของ “ทสึมะ” (Tsuma)

     นอกจากจะช่วยเสริมให้ ปลาดิบ จานนั้นดูน่ากินแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการปกปิด กลิ่นคาวของปลา และ คงสภาพของปลาไม่ให้เน่าเสีย ช่วยฆ่าเชื้อโรค ที่มากับปลาดิบ หากทานไปพร้อมๆ กับปลาดิบ จะช่วยปรับการรับรู้รสชาติ และ สัมผัสได้หลากหลาย และให้รู้สึกสดชื่น ดับความเลี่ยนได้ดี แถมยังป้องกันอาการท้องเสียได้อีกด้วย

 

ร้านอาหารญี่ปุ่นใกล้ฉัน คาโบฉะ ซูชิ เดลิเวอรี่ อาหารญี่ปุ่น ปลาดิบ

 

             หลังจากรู้ประวัติ และ ประโยชน์ของ “ทสึมะ” (Tsuma) กันแล้ว ต่อจากนี้ เวลาทานปลาดิบ ซาซิมิ อย่าลืมทาน ทสึมะ หรือ ผักเครื่องเคียง ด้วยนะคะ แล้วถ้าอยากทาน เมนูซาซิมิ ปลาดิบ หวานฉ่ำ รสชาติแบบ ญี่ปุ่นแท้ๆ อย่าลืมมาที่ คาโบฉะซูชิ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

 

พร้อมเสิร์ฟเมนูสดใหม่ของวัตถุดิบล้ำค่า แล้วที่ Kabocha ทุกสาขา 

อิ่มอร่อยได้ที่ร้าน เช็คสาขาใกล้คุณ คลิกที่นี่

หรือสั่งความอร่อยส่งถึงบ้านได้ที่ Kabocha delivery คลิกที่นี่

พร้อมอัพเดทโปรโมชั่นพิเศษทุกเดือน คลิกที่นี่