“นามะฮาเกะ” เทศกาลยักษ์บุกบ้านที่โด่งดังใน ญี่ปุ่น

     เวลาไป เที่ยวญี่ปุ่น เพื่อน ๆ นึกถึงอะไรกัน? คงจะไม่พ้นเรื่องของกิน สถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ และแหล่งช็อปปิ้งย่านดัง บางคนอาจมีโอกาสได้เข้าร่วมเทศกาลที่สำคัญของ ญี่ปุ่น บ้าง แต่วันนี้ Kabocha Sushi จะพาทุกคนไปรู้จักกับเทศกาล “นามะฮาเกะ” หรือ “เทศกาลยักษ์บุกบ้าน” เทศกาลงานประเพณีจากรุ่นสู่รุ่นของ ญี่ปุ่น ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมจาก ยูเนสโก !! เทศกาลนี้เกี่ยวอะไรกับยักษ์ และเกิดขึ้นมาได้อย่างไร? เรามาทำความรู้จักกับเทศกาลนี้กันเถอะ

 

คาโบฉะ ซูชิ delivery sashimi พาดู อาหารญี่ปุ่น

 

“นามะฮาเกะ” คืออะไร?

     ตามความเชื่อของ ญี่ปุ่นนามะฮาเกะ เป็น ยักษ์โอนิ หรือ ปีศาจ ตนหนึ่งที่มี ใบหน้าสีน้ำเงิน หรือ ใบหน้าสีแดง นามะฮาเกะสีแดงเรียกว่า "นามะฮาเกะคุณตา" นามาฮาเกะสีน้ำเงินเรียกว่า "นามะฮาเกะคุณยาย" และคู่นี้เรียกว่า "นามะฮาเกะคู่" หากนามะฮาเกะไม่มีสี ก็ให้แยกความแตกต่างจากรูปทรงใบหน้า โดยที่่ นามะฮาเกะใบหน้าเหลี่ยม เราเรียกว่า "นามะฮาเกะคุณตา" ส่วนนามะฮาเกะใบหน้า คือ "นามะฮาเกะคุณยาย"

ความจริงแล้วนาฮะมาเกะไม่มีมีแค่ สีแดง หรือ สีน้ำเงิน นะ ยังมีอีกหลายแบบเลย และว่ากันว่าไม่มีกฎตายตัว เพราะวัสดุที่นำมาทำเป็นนาฮะมาเกะอาจมีความแตกต่างตามแต่ละพื้นที่ ทำให้แต่ละ หมู่บ้านนามะฮาเกะ จึงมีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกันบ้าง คล้ายกันบ้าง

 

kabocha sushi เดลิเวอรี่ พาดู เทศกาลยักษ์บุกบ้าน ที่ ญี่ปุ่น

 

ตำนานนามะฮาเกะ เกิดขึ้นได้ยังไง?

     ตำนานนามะฮาเกะ มีหลายทฤษฎีที่ถูกเล่าต่อสืบทอดกันมานานหลายชั่วอายุคน หนึ่งในตำนานความเชื่อนั้น เชื่อว่าเป็นปีศากลุ่มหนึ่งที่ได้ลงมาจากภูเขา เดินเตร็ดเตร่สร้างความเดือนร้อนอาละวาดไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ทั้งขโมยพืชผล สัตว์ และหญิงสาว จนชาวบ้านทนไม่ไหวพากันไปเจรจากับยักษ์เหล่านั้นว่า ให้สร้างบันได้หิน 1000 ขั้น จากชายหาดไปยังศาลเจ้าให้เสร็จภายใน 1 คืน ก่อนไก่ตัวแรกขัน หากทำสำเร็จจะมอบหญิงสาวให้ 1 คน ทุกปี แต่ถ้าทำไม่สำเร็จให้ออกจากหมู่บ้านไป พวกชาวบ้านคิดว่าพวกยักษ์ไม่น่าทำได้ แต่ยักษ์พวกนี้ค่อย ๆ วางหินทำเป็นบันได้ทีละชั้นจนใกล้จะเสร็จ ชาวบ้านเห็นท่าไม่ดีจึงออกอุบายเลียนเสียงไก่ ทำให้ยักษ์คิดว่าเช้าแล้วจึงหยุดและได้ถอยออกไปจากหมู่บ้าน แต่มีชาวบ้านบางคนกลัวมายักษ์จะกลับมา จึงได้แต่งกายปลอมเป็นยักษ์เดินไปรอบ ๆ หมู่บ้าน ส่วนคนในหมู่บ้านจะจัดเตรียมอาหารต่าง ๆ เพื่อเลี้ยงชาวบ้านที่ปลอมตัวเป็นยักษ์ ทำให้กลายเป็นเทศกาลนามะฮาเกะเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

แต่มีอีกความเชื่อว่า นามะฮาเกะ ไม่ใช่ปีศาจแต่เป็นเทพเจ้า หรือ ผู้ส่งสารของพระเจ้า ทำหน้าที่คอยเตือนตักเตือนไม่ให้ขี้เกียจ และขอให้ได้ผลผลิตที่ดี เก็บเกี่ยวได้เยอะ และให้ทุกคนในครอบครัวพบเจอแต่ความโชคดี อีกทั้งยังกลายเป็นเทศกาลที่เด็ก ๆ ต่างพากันหวาดกลัว เพราะพ่อแม่ใน อาคิตะ มักใช้ยักษ์นามะฮาเกะ มาเป็นบทเรียนให้คอยตักเตือนเด็ก ๆ ซึ่งบางครอบครัวอาจขอให้เพื่อน หรือญาติ มาสวมชุดปลอมตัวเป็นยักษ์นามะฮาเกะที่ดุร้ายในช่วงส่งท้ายปีเก่า แล้วให้พวกเขาไปดึงหรือกระชากเด็ก ๆ เพื่อตักเตือนไม่ให้พวกเขาซุกซน เกียจคร้าน ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ หรือบอกเด็ก ๆ ไม่ปฏิเสธที่จะกินผัก ทำให้เด็กหลายคนกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวยักษ์นามะฮาเกะเป็นอย่างมาก หลายคนเรียกค่ำคืนแบบนี้ว่า “ช่วงค่ำคืนแห่งปีศาจ”

 

kabocha sushi เดลิเวอรี่ พาดู เทศกาลยักษ์บุกบ้าน จาก ญี่ปุ่น

 

 

สนุกกับเทศกาลนามะฮาเกะกันเถอะ!

     ในประเพณีดั้งเดิมของชาวเมืองโอกะ จะให้ชาวบ้านบางส่วนในแต่ละหมู่บ้านปลอมตัวเป็นยักษ์เพื่อตะเวนไปตามบ้านต่าง ๆ พร้อมกับถือมีดปังตอไปด้วย แต่ก่อนที่ยักษ์จะเข้าไปจะมีคนสำรวจแต่ละบ้านก่อนว่าเข้าไปในบ้านได้หรือไม่ เพราะมีความเชื่อกันว่าหากในปีนั้นบ้านไหนป่วย เหล่ายักษ์จะไม่เข้าบ้านนั้น หากยักษ์เข้าบ้านใคร พวกยักษ์จะส่งเสียงดังคำรามแล้วถามว่า “บ้านนี้มีคนเกียจคร้านอยู่ไหม” พร้อมกับควงมีดเดินสำรวจภายในบ้าน หากบ้านไหนมีเด็กเหล่ายักษ์ก็จะได้เสียงกรีดร้องและร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวกลับมา โดยที่แต่ละบ้านจะจัดเตรียมอาหารและเหล้าไว้ต้อนรับเหล่ายักษ์ พร้อมกับพูดคุยเล็กน้อยแล้วยักษ์จะอวยพรให้คนในบ้านมีแต่ความสุข มีแต่ความโชคดี ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย แล้วค่อยไปอาละวาดบ้านอื่นต่อไป

 

ส่วนในงานเทศกาลจะพบกับขบวนของนามะฮาเกะจำนวนมาก พร้อมกับจังหวะของเสียงกลองไทโกะ กับเสียงตะโกนของนามะฮาเกะรอบกองไฟขนาดยักษ์ ภายในงานเราอาจได้ยินเสียงเด็ก ๆ กรีดร้อง เพราะพวกยักษ์จะเดินเขาไปหาเด็ก ๆ ทำให้เด็ก ๆ หวาดกลัว ทั้งยังมีการเต้นรำนามะฮาเกะเพื่ออวยพรให้ครอบครัวมีความสุขและมีผลผลิตที่ดี มีการถวายโกมะโมจิ (เค้กข้าว) แก่นามะฮาเกะ โดยการนำเค้กข้าวย่างบนกองไฟ เมื่อนามะฮาเกะกินเค้กข้าวเสร็จแล้ว นามาฮาเกะก็กลับไปยังภูเขาที่เหล่าทวยเทพอาศัยอยู่

 

kabocha sushi เดลิเวอรี่ พาดู เทศกาลยักษ์บุกบ้าน ของ ญี่ปุ่น

 

            เป็นยังไงกันบ้างคะ เรื่องราวของยักษ์นามะฮาเกะที่เป็นการผสมผสานความเชื่อ และ วัฒนธรรมของญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นประเพณีทางวัฒนธรรมที่ทางยูเนสโกยังต้องยกย่อง เห็นแบบนี้หากเพื่อนๆ มีโอกาสไป ญี่ปุ่น อย่าลืมลองแวะไปเที่ยวชมกันดูนะคะ แต่ตตอนนี้เรามาพัก ทานอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ กันที่ Kabocha sushi (คาโบฉะ ซูซิ) กันก่อนดีกว่าค่ะ ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ ที่ใคร ๆ ก็คิดถึง ด้วยเมนูที่หลากหลายทำให้คุณเลิอกทานได้อยากจุใจ วัตถุดิบคือที่สุดของความอร่อย! จะเลือกกินที่ร้าน หรือสั่งทางออนไลน์เพื่อกินที่บ้านก็ได้ แค่นึกถึงก็อยากกินแล้ว! 

 

 

Credit Pic:  https://en.japantravel.com/akita/namahage-sedo-festival/35759

และ https://www.japan-guide.com/blog/raina/160308.html