รู้จัก "เอ็นกาวะ" ปลาซีกเดียว อีกเมนูปลาญี่ปุ่น ที่คนรักซูชิห้ามพลาด

                ซูชิ มีหน้าท็อปปิ้งที่หลากหลายมาก ไม่ใช่แค่ส่วนเนื้อที่เป็นปลาดิบแต่ยังมีส่วนอื่น ๆ ของปลาที่นำมาทำเป็นซูชิแสนอร่อยให้ทานกันด้วยนะ และในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ “เอ็นกาวะ” ซูชิที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น เพื่อน ๆ ลองทายกันซิว่าเอ็นกาวะทำมาจากอะไร?

 

เอ็นกาวะ คือ ปลาอะไร?

"เอ็นกาวะ" ไม่ใช่เนื้อปลาซะทีเดียวแต่เป็นเนื้อส่วนหนึ่งของปลาซีกเดียว ใช้เรียกส่วนครีบด้านบนและด้านล่างของปลา มีรสชาติหวาน เนื้อสีขาว เคี้ยวแล้วให้ความรู้สึกกรุบกรอบ เคี้ยวเพลิน เมื่อนำไปเผาไฟจะได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ชวนให้น้ำลายสอมากยิ่งขึ้น จึงเหมาะกับกาารนำมาทำเป็นซูชิมาก สำหรับปลาซีกเดียวที่นิยมนำมาทำเป็นเอ็นกาวะมีอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน คือ ปลาฮิราเมะ และปลาคะเรย์

ลักษณะของปลาฮิราเมะและปลาคะเรย์ ที่นำมาทำ ซูชิ เอ็นกาวะ

ปลาฮิราเมะ และปลาคะเรย์ มีความคล้ายคลึงกันมาก เพราะเป็นปลาซิกเดียวเหมือนกัน คือมีลักษณะลำตัวแบนราบไปกับพื้นน้ำเพื่อให้ปลาปลาสามารถซ่อนตัวไปกับพื้นทรายใต้น้ำทะเลได้เราจึงเห็นปลาที่ดูเหมือนมีด้านเดียว ในประเทศไทยจะเรียกปลาลักษณะนี้ว่า “ปลาตาเดียว(ปลาฮิราเมะ) และปลาลิ้นหมา(ปลาคะเรย์)” 

             ความแตกต่างของปลาฮิราเมะและคะเรย์ จะอยู่ตรงบริเวณส่วนหัว คือ ปลาฮิราเมะจะมีส่วนหัวหันไปทางซ้าย ในขณะที่ปลาคะเรย์ส่วนหัวจะหันไปทางขวา ส่วนรสชาติปลาฮิราเมะจะมีความมันมากกว่า เพราะมีไขมันที่มากกว่าปลาคะเรย์

 

“เอ็นกาวะ” กินช่วงไหนอร่อยที่สุด

เนื่องจากเอ็นกาวะทำจากปลา 2 ชนิด ทำให้ฤดูการกินเอ็นกาวะมี 2 ช่วงด้วยกันครับ ช่วงแรกจะเป็นฤดูของปลาคะเรย์ โดยจะเริ่มตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิราวเดือนเมษายนไปจนถึงเดือนกรกฎาคม ทำให้ในช่วงนี้ปลาคะเรย์จะมีรสชาติจะดีที่สุด 

            ส่วนอีกช่วงจะเป็นฤดูของปลาฮิคาเมะ คือ ช่วงฤดูหนาวราวเดือนพฤษจิกายนไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ในช่วงนี้เราสามารถกินปลาฮิคาเมะได้ในรสชาติที่อร่อยมากที่สุด เพราะเป็นช่วงที่ปลากำลังสะสมไขมันเพื่อใช้ในฤดูหนาว ปลาจึงมีเนื้อที่แน่นและนุ่มจากมีไขมันที่แทรกซึมอยู่ในเนื้อปลา กินแล้วเหมือนละลายในปาก และยังมีคามหนึบหนับจนหลายคนติดใจ ปลาฮิราเมะหายากกว่าปลาคะเรย์ ทำให้เอ็นกาวะที่ทำจากปลาฮิราเมะมีราคาที่สูงกว่านั่นเองครับ

 

ประโยชน์ของเอ็นกาวะที่ควรรู้

รู้หรือไม่ว่าเอ็นงาวะไม่ได้มีแค่ความอร่อยเพียงอย่างเดียว แต่มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย เพราะมีโปรตีนสูง และมีไขมันอยู่มาก และที่ทำให้เอ็นกาวะมีลักษณะเด้งกรุบก็เป็นเพราะว่าเอ็นกาวะมีโปรตีนอยู่ในรูปคอลลาเจนแข็ง ทำให้เราเคี้ยวแล้วได้รสสัมผัสที่เด้งอร่อยไม่แพ้ซูชิหน้าอื่น ๆ เลย

โดยปกติแล้วตามร้านซูชิจะนำปลาคะเรย์มาทำเป็นเอ็นกาวะเพราะมีราคาที่ถูกกว่า ส่วนปลาฮิราเมะอาจมีการนำมาทำเป็นซูชิเป็นช่วง ๆ เพราะฤดูของปลาเท่านั้น เพื่อให้ได้รสชาติที่สดและอร่อยกว่า อีกทั้งหาง่ายกว่าด้วย

                    อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงอยากลองทานซูชิหน้า “เอ็นกาวะ” กันบ้างแล้ว แนะนำให้ลองเข้าไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่น “คาโบฉะ(Kabocha)” ไปแล้วจะไม่ผิดหวัง เพราะที่นี่เราคัดแต่วัตถุดิบสด ๆ ชั้นดีจากตลาดปลาญี่ปุ่นโดยตรง การันตีทั้งความสดและอร่อยที่เหมือนบินไปกินถึงญี่ปุ่นเลยจริง ๆ ด้วยความใส่ใจและปรุงรสอย่างพิถีพิถันแบบคำต่อคำ จนทำให้ได้ “เอ็นกาวะ” ที่อร่อยเป็นพิเศษ ลองแล้วจะติดใจ มาดื่มด่ำความสนุกในการกินได้เลยที่คาโบฉะทุกสาขา หรือะสั่งผ่าน เดลิเวอรี่ เราก็มีให้บริการด้วยนะครับ