รู้หรือไม่? ใน วัดญี่ปุ่น มี 5 พระพุทธรูปลับซ่อนอยู่

     ถ้าพูดถึงพระพุทธรูป โดยทั่วไปแล้วมักจะตั้งอยู่ในบริเวณที่ผู้คนสามารถเข้าไปกราบไหว้กันได้ง่าย และมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่รู้หรือไม่ครับว่า.. ยังมีพระพุทธรูปอีกมากมายใน วัดญี่ปุ่น ที่ถูกซ่อนเก็บเอาไว้ไม่ให้ผู้ใดพบเห็นได้ง่ายๆ เว้นแต่วันพิเศษเท่านั้น! บางวัดเปิดให้ชมปีละครั้ง บางวัดก็หลายปีเลยทีเดียว วันนี้เราจึงอยากแนะนำสถานที่ที่เก็บซ่อนพระพุทธรูปตามวัดต่างๆ ในญี่ปุ่น แต่ขอคัดเฉพาะแถบโอซาก้า นารา กิฟุของญี่ปุ่น ใครที่กำลังหาข้อมูลท่องเที่ยวภูมิภาคนี้ต้องไม่พลาด! เพราะเรากำลังจะเปิดเผยที่ซ่อนให้คุณได้รู้ เตรียมจดลิสต์ไว้เลยครับ

 

ใน วัดญี่ปุ่น มี 5 พระพุทธรูปลับซ่อนอยู่ คนญี่ปุ่น บางคนไม่รู้ โดย คาโบฉะ ซูชิ

 

ฮิบุทสึ (秘仏) พระพุทธลับที่ไม่อาจเปิดเผย

     ฮิบุทสึ (Hibutsu) หมายถึง พระพุทธรูปที่ไม่สามารถพบเห็นได้ในช่วงเวลาปกติ หากถูกเก็บซ่อนไว้ในวัตถุคล้ายกล่องที่ปิดไว้อย่างมิดชิดที่เรียกว่า “ซูชิ” แต่เมื่อไหร่ที่ซูชินี้เปิดออกให้เห็นพระพุทธรูปที่ซ่อนอยู่ด้านใน เราเรียกว่า “โกะไคโจ” เหตุใด “ฮิบุทสึ” ถึงต้องถูกซ่อนไว้ไม่ให้ผู้ใดพบเห็น? เหตุผลมีอยู่ 2 ข้อหลักๆ เลย  


1. ความเชื่อความศรัทธาในศาสนา

ความเชื่อดั้งเดิมของ คนญี่ปุ่น ที่เชื่อกันว่า เทพเจ้าและพระพุทธเจ้าถือเป็นสิ่งศักดิ์ที่อยู่ในระดับเดียวกัน เมื่อมีแนวความคิดที่ว่า "เทพเจ้าไม่ปรากฏ" คนญี่ปุ่น จึงพยายามป้องกันไม่ให้พระพุทธเจ้าปรากฏสู่สายตาสาธารณชนเหมือนอย่างเทพเจ้า เพราะพลังของพระพุทธเจ้านั้นแรงเกินไปจึงต้องมีการกักเก็บพื่อควบคุมพลังของพระองค์

2.การรักษาทรัพย์สินทางวัฒนธรรม

เหตุผลนี้ เป็นเหตุผลหลักๆ เลยก็ว่าได้ที่ทำให้ วัดญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เก็บซ่อนพระพุทธรูปเอาไว้ โดยเฉพาะพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นจากไม้ เพราะเสื่ยงต่อการถูกแสงและความชื้นทำให้พระพุทธรูปได้ แต่การเก็บเอาไว้นานๆ ก็เสี่ยงต่อการถูกแมลงทำให้เสียหายได้ ทางวัดจึงนิยมเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมตามช่วงเวลาที่กำหนด หรือตามเทศกาลที่สำคัญเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นการให้ทางวัดได้ตรวจสอบพระพุทธรูปที่เก็บไว้อีกด้วย

 

 

 

สถานที่จัดเก็บพระพุทธรูปลับที่ต้องได้เห็นสักครั้ง

 

1. วัดโฮริวจิ (Horyuji)

     วัดญี่ปุ่น แห่งนี้ เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดใน ญี่ปุ่น สร้างขึ้นจากไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกจนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ ยูเนสโก ตั้งอยู่ในจังหวัดนารา เป็นสถานที่แรกที่เก็บพระพุทธรูปที่มีชื่อว่า “Kuse Kannon” เอาไว้ ความพิเศษของพระพุทธรูปนี้ คือ เป็นพระพุทธรูปไม้ปิดทองตั้งแต่หัวจรดเท้า มีความสูง 179 เซนติเมตร คาดว่าสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7 เชื่อกันว่ามีลักษณะคล้ายกับเจ้าชายโชโตกุ 

 

พระพุทธรูปนี้ถูกซ่อนไว้ภายใน “Yumedono (Hall of Dreams)” อาคารทรงแปดภายในวัด  แม้แต่พระในวัดโฮริวจิก็ถูกห้ามไม่ให้เห็น เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าชาย ปัจจุบันทางวัดเปิดให้เข้าชมปีละ 2 ครั้ง ครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน จนถึง 5 พฤษภาคม และครั้งที่สอง ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม จนถึง 22 พฤศจิกายน 

 

 

เที่ยวญี่ปุ่น ในวัดญี่ปุ่น โดย kabocha sushi

 

2.วัดฮกเกะจิ (Hokkeji)

     มาต่อกันวัดที่ 2 วัดนี้เรายังคงอยู่ที่นารา เดิมวัดนี้เป็นศูนย์กลางของสำนักชี ก่อตั้งโดยจักรพรรดินีโคเมียว บุคคลสำคัญในการเผยแพร่ ศาสนาพุทธในญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 745 ภายในวัดมีพระพุทธรูปที่ถือว่าเป็นสมบัติแห่งชาติประดิษฐานซ่อนไว้อยู่ นั่นคือ “Juichimen Kannon” เจ้าแม่กวนอิมสิบเอ็ดเศียร โดยแต่ละเศียรแทนขั้นตอนของการตรัสรู้ สร้างขึ้นจากไม้จันทร์เทศแกะสลักต้นเดียว ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของวัดนี้เลยทีเดียว!

 

ฮิบุสึนี้ถูกเก็บไว้ที่ห้องโถงขนาดใหญ่ รวมกับสมบัติของชาติที่สำคัญอื่นๆ ตามตำนานกล่าวว่าท่านเป็นโพธิสัตว์แห่งความเมตตา ช่วยปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ และยังช่วยให้มีความมั่งคั่งร่ำรวยอีกด้วย หากใครได้มีโอกาสมาที่ วัดญี่ปุ่นแห่งนี้ อาจได้สักการะองค์จำลองที่อยู่ด้านนอก ส่วนองค์จริงนั้น จะเปิดให้เข้ามากราบไว้เฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วงของทุกปีเท่านั้น 

 

ใน วัดญี่ปุ่น มี 5 พระพุทธรูปลับซ่อนอยู่ คนญี่ปุ่น ก็อาจจะไม่รู้ โดย คาโบฉะ ซูชิ

 

3.วัดโคฟุคุจิ (kohfukuji)

     เรายังคงอยู่ต่อในนารากับวัดพุทธเก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุด ก่อตั้งมายาวนานกว่า 1,300 ปี เดิมเป็นวัดประจำตระกูล “ฟุจิวาระ” ตระกูลผู้เรืองอำนาจในสมัยนาราและเฮอัน แม้ว่าอาคารดั้งเดิมส่วนใหญ่เสียหายจากไฟสงครามไปหลายศตวรรษแล้ว แต่ก็มีบางส่วนที่ยังคงโครงสร้างเดิมไว้อยู่ 

 

ภายในวัดมีพระพุทธรูปไม้อันเลื่องชื่อ คือ “Mujaku and Seshin” พระพุทธรูปไม้สัญลักษณ์คู่ของพระภิกษุผู้รอบรู้ชาวอินเดียในช่วงศตวรรษที่ 4 และ 5 ที่คาดว่าเป็นพี่น้องกัน ผู้ก่อตั้งนิกายฮอสโซ สร้างขึ้นโดย “Unkei”  ประติมากรชาวญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงและลูกศิษย์ของเขาในสมัยคามาคุระ ปัจจุบันได้กลายเป็นสมบัติของชาติเช่นกัน ถูกเก็บไว้ในหอกลม (Northern Round Hall National Treasure) โดยจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมปีละ 2 ครั้ง ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ระหว่างวันเสาร์ที่ 4 ของเดือนเมษายน จนถึงวันเสาร์ที่ 4 ของเดือนตุลาคม เป็นเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้นเอง   

 

ใน วัดญี่ปุ่น มี 5 พระพุทธรูปลับซ่อนอยู่ คนญี่ปุ่น ก็อาจไม่รู้ โดย คาโบฉะ ซูชิ

 

4.วัดคันชินจิ (Kanshinji Temple)

     คราวนี้เราขยับไปอีกหน่อย วัดนี้ตั้งอยู่ระหว่างโอซาก้า นารา และวาคายามะ เป็นวัดนิกายชินงงมีความเก่าแก่ไม่แพ้กัน ก่อตั้งขึ้นในปี 701 ต่อมาได้รับการบูรณะในปี ค.ศ. 815 โดยมีรูปปั้นของพระโพธิสัตว์ “Nyoirin Kannon” แกะสลักในท่านั่งขนาด 108.8 ซม. ประดิษฐานอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "คอนโด (国宝)” ปัจจุบันได้กลายเป็นสมบัติของชาติอย่างเช่นพระพุทธรูปก่อนหน้านี้แล้ว  


โดยคำว่า “Kannon” เป็นชื่อ ภาษาญี่ปุ่น หมายถึง พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (Avalokitesvara) เทพเจ้าแห่งความเมตตา คำว่า “nyo-i” หมายถึง อัญมณีแห่งความปรารถนา ส่วนคำว่า “rin” หมายถึง กงล้อ คำสอนทางพุทธศาสนา ซึ่งพระพุทธรูปนี้จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนเพียงสองวันตั้งแต่วันที่ 17 ถึง 18 เมษายนของ ทุกปี! ว่ากันว่าท่านจะช่วยในเรื่องของความสำเร็จ สายมูต้องไม่พลาด! 

 

ใน วัดญี่ปุ่น มี 5 พระพุทธรูปลับซ่อนอยู่ คนญี่ปุ่น อาจไม่รู้ โดย คาโบฉะ ซูชิ

 

5.วัดมิเอะจิ (Mieji Temple)

     สำหรับที่สุดท้าย เราจะพาไปยังวัดมิเอะจินิกายเทนได วัดเก่าแก่ที่มีพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดกิฟุ เพราะถูกสร้างขึ้นในสมัยนาราราวปี 710-794 เดิมสร้างขึ้นในเมืองมิซูโฮ ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งปัจจุบันไปทางตะวันตกประมาณ 11 กม. ต่อมาถูกย้ายไปตั้งใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 16 โดยซามูไรผู้ปกครองภูมิภาคนี้ 

 

วัดญี่ปุ่นแห่งนี้ เป็นที่เก็บซ่อนรูปแกะสลักไม้ที่ โดยใช้เทคนิคพิเศษที่เรียกว่า “ดัทสึคันซิทสึ” ซึ่งเป็น เทคนิคดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่ใช้ทำพระพุทธรูปคุณภาพสูง มีความสูงถึง 180 เมตร มีชื่อว่า “Juichimen Kannon” เป็นอีกหนึ่งทรัพย์สินทาง วัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น และจะเปิดให้ผู้คนเข้าไปชมได้เพียงปีละครั้งในวันที่ 18 เมษายนของทุกปี 

 

เที่ยวกันจนเหนื่อยแล้ว ตอนนี้เรามาพักทานของอร่อย ๆ ให้หายเหนื่อยกันดีกว่าครับ ท่องเที่ยวตามหาพระพุทธรูปลับ กันตั้งหลายวัด ได้เวลามาเติมแรงกันแล้ว ต้องที่นี่เลย ร้านอาหารญี่ปุ่นคาโบฉะ ซูชิ  ( Kabocha Sushi ) ร้านค้าที่เน้นความสดใหม่ อร่อยคุ้มเต็มคำ พอได้กินแล้วจะรู้ถึง ความสุขจนล้นออกมาเลย บรรยากาศภายในร้านก็น่ารักได้ฟีล เหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่น และ ยังดูอบอุ่นเป็นกันเอง ส่วนเมนูนี้มีเยอะมากน่ากินไปหมดเลย ทานอิ่มแล้วอยากสั่งกลับบ้านก็ได้ หรือจะสั่งแบบ เดลิเวอรี่ แบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสุขกับคนรักหรือเพื่อนๆ กันครับ