วันวาเลนไทน์ (バレンタイン) วันแห่งความรักของคนญี่ปุ่น

          วันวาเลนไทน์ เดิมเป็นวันระลึกถึงนักบุญที่มีชื่อว่า “วาเลนตินัส” หรือ “เซนต์วาเลนไทน์” นักบุญแห่งศาสนาคริสต์ที่เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ จากการถูกต้องโทษประหารชีวิต โดยคืนก่อนที่เขาจะเสียชีวิตได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงหญิงสาวอันเป็นที่รัก แล้วลงท้ายในจดหมายว่า "From your Valentine" หลังจากนั้นทุกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ จึงกลายเป็นวันที่แสดงถึงความรักอันบริสุทธิ์ของนักบุญวาเลนไทน์ ต่อมานักบวชในนิกายโรมันคาทอลิกได้ให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่ชายหนุ่มจะแสดงความรักต่อหญิงสาวที่ตนเองรักหรือพึงพอใจ และกลายมาเป็นวันแห่งความรักจวบจนปัจจุบัน 

 

ร้านอาหารญี่ปุ่นใกล้ฉัน kabocha sushi delivery ช็อกโกแลต ใน วันวาเลนไทน์

 

ช็อกโกแลต ของขวัญสื่อรักของสาว ๆ ชาวญี่ปุ่น

เมื่อถึง วันวาเลนไทน์ หลายคนมักจะแสดงความรักที่มีให้ระหว่างกันด้วยการมอบของแทนใจ เช่น ดอกไม้ การ์ด ขนม ช็อกโกแลต เป็นต้น สำหรับ ประเทศญี่ปุ่น เองก็มี เทศกาลวันวาเลนไทน์ เช่นเดียวกัน แต่ความมีความพิเศษต่างจากที่อื่นเพราะเป็นวันที่ฝ่ายหญิงจะเปิดเผยความในใจต่อฝ่ายชายที่ตนเองรักหรือมีใจให้ด้วยการมอบช็อกโกแลตแทนใจ หากใครที่เคยดู การ์ตูนญี่ปุ่น หรือ ซีรี่ย์ญี่ปุ่น คงเคยเห็นฉากที่สาว ๆ ตั้งอกตั้งใจทำช็อกโกเลตเพื่อบอกรักคนที่แอบชอบ หรือบางคนก็ตั้งใจเลือกช็อกโกเลตแล้วห่อให้เป็นของขวัญเป็นอย่างดี เพื่อมอบให้กับคนพิเศษ

โดยทั่วไปแล้วสาว ๆ ญี่ปุ่น มักให้ช็อกโกแลตกันอยู่ 2 แบบ คือ

  1. ฮมเมอิช็อกโกะ (本命チョコ) เป็นการมอบช็อกโกแลตของฝ่ายหญิงที่ให้แก่ฝ่ายชายที่ตนเองแอบชอบ หรือมอบให้แฟนตัวเอง รวมถึงภรรยาที่มอบให้แก่สามีด้วย

กิริช็อกโกะ (義理チョコ) เป็นการมอบช็อกโกแลตตามมารยาท โดยส่วนใหญ่แล้วฝ่ายหญิงจะมอบให้แก่หัวหน้า รุ่นพี่ รุ่นน้อง เพื่อน และคนในครอบครัว 

 

ร้านอาหารญี่ปุ่น kabocha sushi delivery ช็อกโกแลต ใน วันวาเลนไทน์

 

นอกจากนี้ ยังมีการให้ช็อกโกแลตตามมารยาทแบบอื่นอีกนะ เพราะ ญี่ปุ่น มักมีธรรมเนียมการมอบของขวัญกันมาช้านานแล้วในหลาย ๆ โอกาส สำหรับวันแห่งความรักก็เช่นกัน คือ

  • โชกิริช็อกโกะ (超義理チョコ) เป็นการมอบช็อกโกแลตตามธรรมเนียมให้กับทุกคน แม้แต่คนที่ไม่รู้จักก็มีโอกาสได้รับช็อกโกแลตด้วย
  • โทโมะช็อกโกะ (友チョコ) เป็นการมอบช็อกโกแลตให้กับเพื่อน ๆ เพื่อแลกกันเองใน กลุ่มหญิงสาวคนญี่ปุ่น
  • เกียคุช็อกโกะ (逆チョコ) เป็นการมอบช็อกโกแลตของฝ่ายชายที่ให้แก่ฝ่ายหญิงใน วันวาเลนไทน์ 

แน่นอนว่าเมื่อฝ่ายหญิงได้สารภาพรักไปแล้วคราวนี้ก็ต้องมาลุ้นว่าฝ่ายชายจะรับรักไหม หรือจะมีใจให้หรือเปล่า ในอีก 1 เดือนถัดมา ซึ่ง คนญี่ปุ่น จะเรียกเทศกาลนี้ว่า “ไวท์เดย์ (ホワイトデー) ”

 

ร้านอาหารญี่ปุ่น kabocha sushi delivery ช็อกโกแลต วันวาเลนไทน์

 

ไวท์เดย์ (White Day) วันตอบแทนความรักของชายหนุ่ม

วันไวท์เดย์ ตรงกับวันที่ 14 มีนาคม เป็นวันที่ผู้ชายให้สิ่งของตอบแทนแก่ผู้หญิงที่ชอบหรือรู้สึกดีด้วย โดยมักจะให้เป็นมาร์ชแมลโล่เพราะว่ากันว่าแท้จริงแล้วธรรมเนียมนี้เกิดจากการทำการตลาดของร้านขายขนมหวานเพื่อเป็นการให้ของขวัญตอบคืนแทนช็อกโกแลตที่ได้มาใน วันวาเลนไทน์ บางครั้งก็ให้เป็นคุกกี้ ทำให้วันไวท์เดย์มีชื่อเรียกอื่นว่า “วันมาร์เมลโล่” (Marshmallow Day) หรือ “วันคุกกี้” (Cookie Day) 

แต่การให้ของขวัญตอบแทนมีธรรมเนียมที่เป็นกฎอยู่ด้วยนะ เราเรียกว่า ซัมไบกาเอชิ (三倍返し) เป็นการมอบของขวัญตอบกลับสำหรับหญิงสาวที่ชายหนุ่มมีใจให้เสมือนเป็นการรับรักตอบ หรือเป็นการบอกนัย ๆ ว่า เราคบกันเถอะ โดยมีกฎคือ หากชายหนุ่มคนไหนที่ฮอตได้รับช็อกโกแลตจากสาว ๆ หลายคน พวกเขาไม่จำเป็นต้องมอบของตอบแทนให้ทุกคน เพียงแต่พวกเขาจะมอบของขวัญเพียงชิ้นเดียว และของขวัญต้องมีมูลค่าเป็น 3 เท่าของของที่ได้รับมา ซึ่งของนั้นอาจจะเป็นได้หลายอย่าง เช่น ขนมหวาน ดอกไม้ เครื่องประดับ เสื้อผ้า หรือพาไปร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ เป็นต้น

ในกรณีที่ฝ่ายชายได้รับช็อกโกแลตแบบกิริช็อกโกะ คือได้ช็อกโกแลตตามมารยาท พวกเขาจะซื้อของมาตอบแทนเป็นมารยาทเหมือนกัน 

สำหรับฝ่ายชายคนไหนที่ได้รับช็อกโกแลตมาใน วันวาเลนไทน์ แต่จำเป็นต้องปฏิเสธความรักของหญิงสาว พวกเขาจะให้เป็นมาร์ชเมลโล่หรือคุกกี้ตอบแทน และยังมีวันแปลก ๆ อย่างวันแบล็คเดย์ (Black Day) คือวันที่เราจะให้ของขวัญกับคนที่เราเกลียดขี้หน้า ซึ่งตรงกับวันที่  15 กุมภาพันธ์ นั่นเอง

             สำหรับเดือนแห่งความรักนี้ อย่าลืมกุมมือกันมามาทาน อาหารญี่ปุ่นอร่อย ๆ ที่ ร้านอาหารญี่ปุ่น คาโบฉะ ซูชิ  (kabocha sushi) ร้านอาหารที่ตกแต่งด้วยกลิ่นอายของความเป็น ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น มาพร้อมกับเมนูยอดฮิตหลากหลายตั้งแต่ชูชิ ข้าวหน้าต่างๆ อุด้ง ราเมง และที่พลาดไม่ได้คือ ซาซิมิ เนื้อนุ่มละลายในปาก วัตถุดิบทุกชิ้นถูกคัดสรรมาอย่างดีจาก ตลาดปลาญี่ปุ่น ทำให้คงรสชาติดั้งเดิมแท้ ๆ ไว้ เหมือนนั่งกินอยู่ที่ ญี่ปุ่น เลยทีเดียว แถมยังมีโปรโมชั่นเอาใจสายกินคนรัก อาหารญี่ปุ่น ด้วย จะพลาดได้ยังไง ส่วนคนโสดก็ไม่ต้องเสียใจ ลองมามากุมตะเกียบ เอ้ย จับตะเกียบทานชูชิอร่อยๆ กันได้นะ