สาหร่ายทะเลสีตก ไม่มีรสชาติ เกิดปรากฏการณ์ข้าวปั้นไร้ สาหร่าย

            สาหร่ายทะเล นอกจากจะเป็นพืชที่ช่วยรักษาระบบนิเวศของท้องทะเลแล้ว ยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้ เพราะการนำ สาหร่ายทะเล มาปรุงอาหารจะช่วยเพิ่มรสชาติของอาหารให้อร่อยมากขึ้น เราจึงเห็นอาหารญี่ปุ่น หลายๆ เมนูที่มี สาหร่ายเป็นตัวชูโรงที่ช่วยให้อาหารอร่อยกลมกล่อม แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้เกินเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อ สาหร่ายทะเลเกิดสีตกขึ้นมา และสิ่งนี้เองที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของ “ข้าวปั้นไร้ สาหร่าย” ที่ Kabocha จะเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกันค่ะ


ร้านอาหารญี่ปุ่นใกล้ฉัน คาโบฉะ ซูชิ เดลิเวอรี่ มี สาหร่าย

 

 สาเหตุที่ทำให้สาหร่ายทะเลสีตก

             ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ทางทิศตะวันตกของ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ตั้งของเกาะเซโตะ ท้องทะเลบริเวณนั้นได้ประสบวิกฤตของน้ำทะเลที่เต็มไปด้วยของเสียจนส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว และสีน้ำทะเลที่เปลี่ยนจากทะเลสีฟ้าอมเขียวใสกลายเป็นทะเลสีดำที่ขุ่นมัว เนื่องมาจากโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก

จนเมื่อกระทั่งปี 1973 ทาง รัฐบาลญี่ปุ่น ได้ออกมาจัดการเพื่อแก้ปัญหาน้ำทะเลที่เน่าเสียอย่างเร่งด่วน โดยการออกมาตรการให้โรงงานอุตสหกรรมที่เกี่ยวข้องในละแวกนั้นต้องเริ่มต้นการบำบัดน้ำเสียอย่างจริงจัง ก่อนที่จะปล่อยของเสียออกสู่ทะเลเสียก่อน โดยใช้วิธีการลดเกลือที่มีส่วนในการที่ทำในเกิดของเสียลง ซึ่งมาตรการนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะน้ำทะเลเกาะเซโตะ ได้กลับมาใสเหมือนเดิมอีกครั้ง แต่การที่ความสำเร็จกลับนำมาด้วยผลกระทบที่ใครหลายคนมากไม่ถึง จากการที่ “น้ำทะเลใสเกินไป” เพราะทำให้สิ่งมีชีวิตในทะเลลดน้อยลงไป โดยเฉพาะ “แพลงก์ตอนตาย”

เมื่อแพลงก์ตอนอยู่ไม่ได้และค่อยๆ ลดจำนวนลงไปเรื่อยๆ จำนวนปลาเองก็ลดลงตามไปด้วยเช่นกันเพราะอาหารของพวกมันลดน้อยลงหรือไม่หลงเหลืออยู่เลย แม้แต่ สาหร่ายทะเล เองก็ส่งผลกระทบเช่นกัน เพราะสีของสาหร่ายทะเลที่ปกติแล้ว จะต้องมีสีเขียวเข้มออกไปทางสีดำกลับเริ่มเปลี่ยนสีตามไปด้วย หรือที่เราเรียกว่า “สาหร่ายทะเลสีตก” ทำให้ผู้เพราะ เลี้ยงสาหร่ายทะเล ในพื้นที่ต้องตัดใจทิ้ง สาหร่ายทะเล ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดไปอย่าน่าเสียดาย ด้วยเหตุผลที่ว่าเมื่อ สาหร่ายทะเลสีตก แบบนี้ จะทำให้ รสชาติของสาหร่าย ทะเลเปลี่ยนไป ไม่อร่อย และไร้รสชาติ

 

ร้านอาหารญี่ปุ่น คาโบฉะ ซูชิ เดลิเวอรี่ สาหร่าย

 

 สาหร่ายทะเลสีตกได้อย่างไร

          สาหร่ายทะเลสามารถสร้างอาหารได้ โดยการสังเคราะห์แสง และใช้วิธีการดูดซับแร่ธาตุจากน้ำทะเลสู่เซลล์โดยตรง ซึ่ง สาหร่ายทะลส่วนใหญ่ จะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มตามสี ได้แก่ สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน สาหร่ายสีเขียว สาหร่ายสีแดง และ สาหร่ายสีน้ำตาล โดย สาหร่ายที่นิยมนำมาทำ อาหารญี่ปุ่น จะเป็น สาหร่ายแผ่นบางๆ ใช้ห่อซูซิ หรือข้าวปั้น เราจะเรียก สาหร่าย ชนิดนั้นว่า “โนริ” เป็น สาหร่ายสีแดง

อย่างที่กล่าวเบื้องต้นว่าในอดีตท้องทะเลของ เกาะเซโตะ นั้นมีแต่ของเสีย ทำให้น้ำทะลมีไนโตรเจนจำนวนมาก พอ ญี่ปุ่น ได้มีการกำหนดมาตรการกำจัดน้ำเสียของโรงงานอย่างจริงจังน้ำทะเลก็กลับมาใสและสะอาดมากเกินไป ทำให้ ไนโตรเจน ที่เป็นสารอาหารของ แพลงก์ตอน ลดลงจนแทบไม่หลงเหลืออยู่เลย  รวมถึงฟอสฟอรัสด้วย สาหร่ายทะเลก็เลยเปลี่ยนสีตาม

แม้ว่า ไนโตรเจนจะเป็นองค์ประกอบหลักของบรรยากาศโลก แต่มีสิ่งมีชีวิตเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่สามารถนำเอา ไนโตรเจน มาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ทำให้ ญี่ปุ่น เริ่มกลับมาวางแผนที่จะปล่อยของเสียลงสู่ทะเลใน เกาะเซโตะอีกครั้ง และใช้วิธีการเพิ่มความหนาแน่นของ เกลือในทะเล เพื่อพลิกฟื้นสิ่งมีชีวิตและ สาหร่ายทะเลในละแวกนั้น ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง

 
ร้านอาหารญี่ปุ่น kabocha sushi delivery ซาซิมิ สาหร่าย
 

ทำไมถึงเกิดปรากฎการณ์ข้าวปั้นไร้สาหร่าย

         สาหร่าย เป็นวัตดุดิบพื้นฐานที่สำคัญ ของอาหารญี่ปุ่น หลายคนชอบนำ สาหร่ายมาทำน้ำซุป มาทำเป็น ข้าวห่อสาหร่าย โดยเฉพาะข้าวปั้น เพราะเป็นอาหารที่ทานได้ง่ายและมักมีวางขายอยู่ตาม ซุปเปอร์มาร์เก็ต ทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่จากเหตุการณ์ที่ สาหร่ายทะเลของ เกาะเซโตะ เปลี่ยนสีไป ดูซีดจางลงหรือ “สีตก” ทำให้ สาหร่ายทะเลจากสีออกดำ กลายเป็นออกเหลืองแทน ผู้ผลิตจึงต้องทิ้ง สาหร่าย เหล่านั้นไป หลายคนล้มเลิกกิจการเพราะ ไม่มีสาหร่ายทะเล หรือ สาหร่ายทะเลที่เพาะเลี้ยง มาเสียหายเกือบหมด จากเหตุการณ์นี้เองทำให้ผลผลิตของ สาหร่าย ลดน้อยลงจนไม่เพียงพอต่อการนำไป ทำอาหารญี่ปุ่น ร้านสะดวกซื้อต่างๆ จึงต้องวางขายข้าวปั้นทั้ง ๆ ที่ ไม่ใส่สาหร่ายทะเลลงไป

 

ร้านอาหารญี่ปุ่น คาโบฉะ ซูชิ เดลิเวอรี่ ใช้ สาหร่าย

 

           การเอาใจใส่สิ่งแวดล้อมของ คนญี่ปุ่น เป็นเรื่องที่ดี แต่การที่ทำให้สิ่งแวดล้อมขาดสมดุลกลับนำพาหายนะของสู่ท้อง ทะเลญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าจะเกิดปัญหาต่างๆ ตามมาแต่ คนญี่ปุ่น ก็พยายามอย่างสุดฝีมือเพื่อพลิกฟื้นระบบนิเวศให้ฟื้นคืนมาโดยไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวพร้อมๆ กับการรักษาความอุดมสมบูรณ์ของทะเลเอาไว้

           สำหรับ ร้านอาหาร Kabocha sushi ที่นำเข้าวัตถุดิบสด ๆ โดยตรงจากญี่ปุ่น ไม่ว่าจะสาหร่ายทะเล เนื้อปลาแซลมอน หรือ ปลามากุโระ ที่หลายๆ คนชื่นชอบ เราจึงมั่นใจได้ว่าวัตถุดิบที่เรานำเข้าทุกชิ้นล้วนมีคุณภาพดี เพราะเป็นผลผลิตที่มาจากความใส่ใจ ของคนญี่ปุ่น เมื่อรวมเข้ากับความตั้งใจของเซฟที่พิถีพิถันในการนำวัตถุดิบมาปรุงเป็นเมนูอาหารต่างๆ ทำให้ร้านของ Kabocha sushi ล้วนแต่มี อาหารญี่ปุ่นชั้นเลิศ ที่รอให้ทุกคนมาลิ้มลองในบรรยากาศที่ ญี๊ปุ๊น .. ญี่ปุ่น ใครที่กำลังคิดถึง ประเทศญี่ปุ่น ต้องไปเลย!