เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว เที่ยวเทศกาลหิมะซัปโปโร 2023

            เทศกาลหิมะซัปโปโร เทศกาลที่รู้จักกันทั่วโลก เป็นเทศกาลที่จัดทุกปี ในเมืองซัปโปโร ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองของภูมิภาคฮอกไกโดที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีอากาศหนาวเหน็บเหมาะกับการเล่นหิมะและสกีมากที่สุด เราจึงเห็นลานสกีรีสอร์ทมากมาย รวมถึงกิจกรรมหน้าหนาวที่กระกายอยู่ทั่วทั้งภูมิภาค และไฮไลท์ที่เที่ยวหน้าหนาวเลยก็คืองานเทศกาลหิมะซัปโปโรที่จัดขึ้นมาเป็นเวลานาน และในวันนี้เราจะพาทุกคนไปตะลุยเทศกาลหิมะซัปโปโรกัน!

จุดเริ่มต้นของเทศกาล หิมะซัปโปโร

ก่อนจะมาเป็นเทศกาลหิมะ ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1950 มีเหล่านักเรียนชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลายกลุ่มหนึ่งในเมืองซัปโปโรต่างพากันมาเล่นกองหิมะที่ถูกกวาดมากองทิ้งไว้ เด็ก ๆ พากันปั้นหิมะอย่างสนุกสนานตอนนั้นมีรูปปั้นเพียง 6 รูปเท่านั้น จากนั้นก็ได้เริ่มมีการจัดงานขึ้นมาเรื่อย ๆ จนมาถึงปี ค.ศ. 1953 ได้เริ่มสร้างรูปปั้นหิมะที่มีขนาดใหญ่สูงถึง 15 เมตรโดยโรงเรียนมัธยมปลายฮอกไกโด ซัปโปโรฟุชิมิ พอมาถึงงานเทศกาลครั้งที่ 5 ได้เริ่มให้ประชาชนเข้าร่วมปั้นหิมะขึ้น จนกระทั่งงานเทศกาลครั้งที่ 6 กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นอาสาเข้ามาร่วมจัดงาน รวมถึงสร้างรูปปั้นหิมะขึ้นมามากมาย ทำให้งานเทศกาลหิมะซัปโปโรจึงค่อย ๆ เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และที่ทำให้งานเทศกาลหิมะซัปโปโรโด่งดังมากที่สุดก็คือในปี ค.ศ. 1959 ที่ได้ระดมคนมาสร้างรูปปั้นประติมากรรมหิมะประมาณ 2500 คน จากเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการนำเสนอข่าวผ่านทางโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์จนเป็นที่กล่าวขานกันทั่วทั้งญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 1972 เทศกาลหิมะซัปโปโรได้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น เพราะว่าสถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นที่จัดงาน “โอลิมปิกฤดูหนาว” ภายในชื่อ “ยินดีต้อนรับซัปโปโร” จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1974 ได้เริ่มให้ตัวแทนจากประเทศต่าง ๆ เข้ามาร่วมสร้างรูปปั้นหิมะขึ้นจนกลายมาเป็นงานเทศกาลนานาชาติที่โด่งดังจวบจนปัจจุบัน

ประติมากรรม หิมะซัปโปโร ถูกสร้างขึ้นอย่างไร

ถึงแม้สถานที่จัดงานจะมีหิมะมากแต่การที่มีการสร้างรูปปั้นและประติมากรรมหิมะขนาดใหญ่จำเป็นต้องใช้หิมะจำนวนมาก ทำให้ต้องมีการขนส่งหิมะโดนรถบรรทุกจากสถานที่ใกล้เคียงมาใช้ เช่น สุสานทะคิโนะ ซัปโปโรซาโตะแลนด์ สวนโมเอเระนูมะ เป็นต้น ตัวแทนจากประเทศต่างๆร่วมกันปั้นหิมะขึ้นมา โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน

          สำหรับอุปกรณ์การสร้างประติมากรรมหิมะนั้นก็จะมีรั่วหรือมีใบกว้าง เลื่อย สิ่วสำหรับแกะสลัก ด้วยขนาดของหิมะที่มีขนาดใหญ่นักปั้นหรือแะสลักจำเป็นต้องใช้รถเครน และนั่งร้าน เพื่อช่วยในการรังสรรค์ผลงานด้วย ซึ่งในระหว่างที่แกะสลักหิมะนั้นเป็นนักแกะสลักสระผมน้ำเพื่อให้หิมะค่อย ๆ แข็งตัว เป็นรูปร่างเกาะกันอยู่ และพอหิมะเริ่มละลายรูปปั้นก็จะไม่ถูกทำลายด้วยนั่นเอง

เที่ยวเทศกาลหิมะในซัปโปโร 2023

สำหรับในปี 2023 นี้ งานเทศกาลหิมะซัปโปโรได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 73 ภายในชื่อ “the 73rd, commemorating the 100th anniversary of Sapporo's incorporation as a city” ในระหว่างวันที่ 4 ถึง 11 กุมภาพันธ์ 2023 ที่โอโดริ (Odori) และ ซุซุกิโนะ (Susukino)

                โดยที่ซุซุกิโนะ จะมีการจัดแสดงรูปปั้นหิมะและน้ำแข็งขนาดใหญ่ 5 ตัว และรูปปั้นอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวในฤดูหนาวด้วย สถานที่จะอยู่ใกล้กับสวนโอโดริทำให้เพื่อน ๆ สามารถเดินไปชมประติมากรรมหิมะและน้ำแข็งที่อยู่ติดกันได้ แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ในปีนี้มีการงดกิจกรรมการแข่งขันประติมากรรมหิมะนานาชาติและบูธขายอาหารและเครื่องดื่มออกไป แต่ภายในงานยังคงมีบูธขายสินค้าอยู่เหมือนเดิม เพื่อน ๆ ที่มาเที่ยวอาจจะต้องทานอาหารมาก่อนหรือพกของทานเล่นมาด้วยนะครับ จะได้ไม่หิวซะก่อน และอย่าลืมสวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างหากมีการนั่งรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มด้วยนะครับ

                ภายในงานพอตกกลางคืนเราจะเห็นแสงไฟระยิบระยับที่ประดับตกแต่งอยู่บนประติมากรรมหิมะและน้ำแข็งอยู่ทุกที่ ทำให้ลานจัดแสดงแห่งนี้เต็มไปด้วยแสงสีที่ดูสวยงามตระการตา หากใครอยากเห็นความอลังการของงานจัดแสดงประติมากรรมหิมะแนะนำให้ขึ้นไปที่ “ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์” เพราะที่ตรงนี้เราจะได้เห็นลานประติมากรรมหิมะในมุมสูงที่ยิ่งใหญ่ทั่วทั้งงานและความสวยงามในยามค่ำคืนอย่างแน่นอน

             เทศกาลหิมะซัปโปโรเป็นเทศกาลที่ถ้ามีโอกาสแล้วเราควรจะไปเห็นด้วยตาสักครั้งเพราะนอกจากเราจะได้เห็นความสวยงามของประติมากรรมหิมะและน้ำแข็งแล้ว เรายังได้สัมผัสกับอากาศหนาวเย็น เล่นหิมะ สกี และสเก็ตอย่างสนุกสนานแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน สำหรับคนที่ไม่ได้ไปซัปโปโรก็สามารถมาสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นได้ที่ ร้านอาหารญี่ปุ่น “คาโบฉะ(Kabocha)”  หรือ สั่งอาหารญี่ปุ่นเดลิเวอรี่ ก็ได้ เพราะที่นี่ เราคัดสรรวัตถุดิบนำเข้ามาจากตลาดปลาญี่ปุ่น เชฟที่มีความเชี่ยวชาญและพิถีพิถันในปรุงรสชาติในคงความเป็นญี่ปุ่นแท้ ๆ โดยที่คุณไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่นเลย แถมยังมีเมนูให้เลือกหลากหลาย เพื่อให้คุณสนุกสนานกับการกินได้อย่างเต็มที่ในบรรยากาศที่อบอุ่น มาทำให้มื้อพิเศษของคุณมีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มกันเถอะ!