ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีเครือข่ายการขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเครือข่ายรถไฟที่รวดเร็วและครอบคลุมไปทั่วประเทศ การเดินทาง เที่ยวญี่ปุ่น ไปตามที่ต่าง ๆ จึงสะดวก สบาย และง่ายดาย หลายคนรู้จัก รถไฟชินคันเซ็น และ อยากลองสัมผัสกับรถไฟความเร็วสูงสักครั้ง แต่ญี่ปุ่น ยังมีรถไฟอีกประเภทที่อยากให้ทุกคนได้ลอง นั่นคือ รถไฟนอนข้ามคืน รถไฟที่จะช่วยให้คุณไม้สัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่แม้แต่ คนญี่ปุ่น เองก็อยากลองนั่งดูสักครั้ง ขบวนรถไฟนอนนี้มีความน่าสนใจตรงไหนน้า วันนี้ Kabocha Sushi จะพา เที่ยวญี่ปุ่น ด้วยการ รีวิวรถไฟขบวนนี้ ให้รู้จักกันค่ะ
ทำความรู้จักรถไฟนอน Sunrise Seto-Izumo
รถไฟซันไรส์เซะโตะ-อิซุโมะ (Sunrise Seto-Izumo) เป็นรถไฟตู้นอนด่วนพิเศษที่วิ่งข้ามคืนระหว่างเมือง (สามารถใช้บัตร JR Pass ได้) โดยรถไฟนอนขบวนนี้จะเริ่มต้นออกจากโตเกียว (Tokyo) ผ่านโอซาก้า(Osaka) ฮิเมจิ(Himeji) และจะถูกแยกออกเป็น 2 เส้นทางที่สถานี “โอกายาม่า (Okayama)” โดย
เพื่อนๆ สามารถขึ้นรถไฟนอน Sunrise Seto-Izumo ได้ที่สถานีโตเกียวที่ชานชาลาหมายเลข 9 และ 10 โดยสังเกตที่ป้าย Sunrise Express นะคะ และดูหมายเลยตู้โดยสารให้ถูกด้วยนะคะ เพราะเดี๋ยวจะถูกพาไปอีกเมืองได้น้า
ประเภทห้องพักในขบวนรถไฟ
เนื่องจากรถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟนอนโดยเฉพาะ จึงมีแต่ห้องที่มีเตียงนอน ทำให้ไม่มีที่นั่งในขบวนรถไฟ จะมีแบบไหนบ้างมาดูกันเลยค่ะ
1. Nobi Nobi Seat
เป็นเตียงนอนที่ราบไปกับพื้นรถไฟ ภายในห้องจะมีลักษณะคล้ายกับโรงแรมแบบแคปซูล มีความกว้างอยู่ที่ 190 ซม. ยาว 190 ซม. พื้นเป็นพรม ห้องนอนแบบนี้เป็นห้องที่มีราคาถูกที่สุด สำหรับคนที่ใช้บัตร JR Pass ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มค่ะ แต่บอกก่อนเลยว่าห้องนี้ไม่มีปลั๊กไฟ และผ้าเช็ดตัวให้สำหรับคนที่ต้องการอาบน้ำนะคะ ไม่เหมือนห้องรูปแบบอื่น และก็ไม่มีความเป็นส่วนตัวด้วย มีเพียงไม้บาง ๆ กั้นระหว่างห้อง แต่มีที่วางแก้วน้ำให้ และมีผ้าม่านเป็นประตูเปิด-ปิดเท่านั้น
2. Single Deluxe
เป็นห้องที่ได้รับความนิยมมาก และจองยากมาก เพราะเป็นห้องที่ดีที่สุด สามารถมองเห็นวิวได้ชัดเจนเนื่องจากอยู่ชั้นบนของตู้รถไฟนอน 2 ชั้น อีกทั้งยังมีเพียง 6 ห้องเท่านั้น ภายในห้องจะมีเตียงยาว 196 ซม. กว้าง 85 ซม. มีโต๊ะ เก้าอี้ อ่างล้างจาน และปลั๊กไฟ เรียกได้ว่ามีอุปกรณ์และเครื่องใช้ครบครันสุด ๆ ใครที่ต้องการพักห้องนี้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากบัตร JR Pass สำหรับคนที่ต้องการอาบน้ำ ห้องนี้ได้รวมค่าบริการไว้ให้แล้วค่ะ คุณไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม
3. Single
เป็นห้องนอนที่อยู่ในตู้รถไฟนอน 2 ชั้น แต่อยู่ชั้นล่าง ภายในห้องจะมีเตียงขนาด96 ซม. กว้าง 70 ซม. สูงประมาณ 180 ซม. ซึงเป็นห้องเล็ก ๆ เหมาะสำหรับคนที่ไม่สูงมาก มีชุดให้เปลี่ยน ผ้าเช็ดตัว โต๊ะ และปลั๊กไฟให้เรียบร้อยเลยค่ะ หากใครที่ต้องการพักห้องนี้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากบัตร JR Pass ด้วยนะคะ
4. Solo
เป็นห้องนอนเดี่ยวที่มีขนาดเตียง ยาว 196 ซม. x กว้าง 56 - 70 ซม. จะอยู่ที่ตู้รถไฟนอนชั้นเดียว ห้องนี้จะมีช่องสำหรับเก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง ห้องนี้มีขนาดเล็กมาก ๆ ใครที่ไม่ชอบความอึดอัดให้เลือกห้องแบบข้างบนจะดีกว่า นอนกจากนี้ถายในยังมีเครื่องใช้ และปลั๊กไฟให้ด้วยนะคะ สำหรับหอ้งนี้มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจาก JR Pass เช่นเดียวกันค่ะ
5. Single twin
ห้องนี้มีความพิเศษตรงที่สามารถปรับเป็นห้องเตียงเดี่ยวหรือเตียงแฝดได้ ภายในจะเป็นเตียง 2 ชั้น ขนาด ยาว 196 ซม. กว้าง 70 ซม โดยที่เตียงด้านบนมีขนาดเล็กกว่าข้างล่างเล็กน้อย ส่วนเตียงนอนด้านล่างสามารถปรับเป็นที่นั่งได้ ห้องนี้จึงเหมาะกับผู้ที่เดินทาง 2 คนเป็นอย่างมากค่ะ และแน่นอนว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มเช่นกันนะคะ
6. Sunrise Twin
สำหรับห้องนี้ เป็นห้องเตียงแฝดที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีเพียง 4 ห้องเท่านั้น ซึ่งภายในจะมีเตียงยาว 196 ซม. กว้าง 75 ซม. ซึ่งมีขนาดใญ่กว่าเตียวเดี่ยวข้างบน มีโต๊ะตรงกลาง มีแก้วน้ำ มีช่องเก็บสัมภาระ และมีปลั๊กไฟด้วย โดยห้องนี้จะอยู่ที่ชั้นล่างของตู้รถไฟนอน 2 ชั้น และต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากบัตร JR Pass ค่ะ
7. ห้องอื่น
หลังจากที่เราได้แนะนำห้องไฟในรถไฟนอนทั้งหมดแล้ว คราวนี้เราจะแนะนำห้องอื่น ๆ ให้รู้จักกันด้วยค่ะ
ราคาของรถไฟนอน Sunrise Seto-Izumo
อย่างที่กล่าวข้างต้น Japan Rail Pass จะครอบคลุมค่าโดยสารพื้นฐานอยู่แล้ว แต่อาจมีค่าธรรมเนียมที่พักเพิ่มเติมหรือค่าธรรมเนียมด่วนพิเศษค่ะ ซึ่งค่าโดยสารสารเริ่มมต้นที่ 22,540 - 23,210 เยน ตามปลายทางที่เลือกต่อเที่ยว โดยราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมมีตั้งแต่ 9,500 ถึง 17,000 เยน ขึ้นอยู่กับที่พักที่เลือกค่ะ กรณีที่ซื้อตั๋วนอนจะได้รับส่วนลดอีก
ข้อควรรู้
แถมอีกนิด เมื่อขบวนรถไฟเดินทางมาใกล้ถึงเมืองโอกายาม่า เพื่อนๆ อย่าลืมเตรียมตัวไปชมบรรยากาศการแยกขบวนรถไฟล่ะ เป็นไฮไลท์ที่ คนญี่ปุ่น อยากมาดูสักครั้งเลย และถ้าใครได้ใช้บริการรถไฟสายนี้อย่าลืมดื่มด่ำกับทัศนียภาพต่างๆ ด้วยนะ เพราะรถไฟจะวิ่งไม่เร็วมาก ทำให้คุณสามารถซึมซับวิวทิวทัศน์ระหว่างทางได้เต็มที่เลย ส่วนตอนนี้ใครคิดถึง อาหารญี่ปุ่น ต้องไม่พลาด ร้านอาหารญี่ปุ่น คาโบฉะ ซูซิ ทุกสาขา (Kabocha sushi) ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ ที่เสิร์ฟความอร่อย สดใหม่ทุกเมนู เช่น ซูซิ ซาซิมิ ข้าวหน้าด้ง อุด้ง ราเมง เทมปุระ และอื่นๆ อีกมากมาย เพียงแค่ก้าวเข้ามาในร้านก็ทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศแบบ ญี๊ปุ่น ญี่ปุ่น ที่ใครหลายคนคิดถึง แล้วแวะมา ทานอาหารญี่ปุ่น กันนะคะ