เที่ยวญี่ปุ่น แต่มีเวลาแค่ 7 วัน เที่ยวยังไงให้คุ้มดี

 

ไหนใครมีแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นกันบ้างแต่ไม่รู้จะเที่ยวที่ไหนยังไงให้คุ้ม...

เพราะญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เมืองที่น่าท่องเที่ยวก็เยอะ วันนี้เรามีสถานที่ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดตามเมืองโตเกียว คาวากุจิโกะ เกียวโต นารา อุจิ และโอซาก้ามาฝากกันครับ

วันที่ 1: เริ่มต้นจากโตเกียว

วันแรกที่ญี่ปุ่นเราจะพาเพื่อน ๆ เดินเล่นเที่ยวสนุกในโตเกียวก่อน โดยเริ่มจากการนั่งรถไฟเข้าเมืองที่ใช้เวลาเพียง 1.30 ชม. จากสนามบินนาริตะ หรือ 30 นาทีจากสนามบินฮานาเดะ จากนั้นเข้าไปฝากกระเป๋าที่โรงแรมแล้วก็ลุยเที่ยวกันเลย มาถึงโตเกียวแล้วไปที่ไหนก่อนดีนะ? นี่เลยต้องเริ่มจาก พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) สถานที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น มีสะพานเมกาเนะเป็นไฮไลท์ที่ห้ามพลาดแล้วต่อกันที่ 

ย่านนิงเงียวโจ (Ningyocho) เป็นย่านที่เคยเฟื่องฟูในสมัยเอโดะมีร้านค้าเล็กๆ บ้านดั้งเดิม ร้านอาหารเก่าแก่ ร้านขายงานฝีมือแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีวัดหลายแห่งในพื้นที่ที่มีการจัดงานต่างๆ ตลอดทั้งปีซึ่งอยู่ใน ย่านนิฮงบาชิ (Nihonbashi) ใจกลางเมืองเก่าในสมัยเอโดะ และปิดวันแรกของการมาเที่ยวญี่ปุ่นที่ ย่านกินซ่า (Ginza) ย่านชอปปิ้งหรูแหล่งรวมร้านค้าแบรนด์ดังมากมายให้เพื่อน ๆ ได้ชอปกันอย่างจุใจ แถมของกินเพียบอีกด้วย

 

เที่ยวญี่ปุ่นวันที่ 2: โตเกียวเที่ยวทั้งวัน

มาถึงโตเกียวทั้งทีเราจะพลาดไปเที่ยววัดดังอย่างวัดอาซากุสะหรือวัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) ได้ยังไงใช่ไหม? ระหว่างทางเข้าวัดเราจะเห็นร้านค้าตั้งเรียงรายให้เราได้แวะซิมและชอปกันอย่างเพลิดเพลิน จากนั้นเราไปต่อกันที่อากิฮาบาระ (Akihabara) ย่านที่น่าหลงใหลเพราเต็มไปด้วยร้านขายวิดิโอเกม อนิเมะ มังงะ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มากมายเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของเหล่าโอตาคุกันเลยทีเดียว

ไปต่อกันที่ย่านชิบูย่า (Shibuya) ย่านคึกคักที่หลายคนคงจะเคยเห็นภาพผู้คนเดินขวักไขว่บนทางแยกทางม้าลายใช่ไหม? สถานที่นั่นคือ “ห้าแยกชิบูย่า” ที่นี้นี่เอง! เดินต่อไปอีกนิดจะเจอกับรูปปั้นน้องหมากตัญญูฮาจิโกะ ซึ่งเป็นสุนัขพันธ์อาคิตะที่โด่งดัง ตลอดทางเพื่อน ๆ จะได้ชอปปิ้งกันอย่างจุใจ โดยสามารถเดินได้ยาว ๆ จนถึงย่านฮาราจุกุ(Harajuku)เลยนะ สุดท้ายเราไปปิดวันที่แสนสนุกกันที่ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) ที่เงียบสงบแล้วออกมาเดินเล่นชิล ๆ บริเวณสวนสาธารณะโยโยงิ

 

เที่ยวญี่ปุ่นวันที่ 3: ชมภูเขาไฟฟูจิที่คาวากุจิโกะ

วันนี้เราออกนอกเมืองไปยังหมู่บ้านคาวากุจิโกะ จังหวัดยามานาชิ (Yamanshi) เพื่อชมภูเขาไฟฟูจิกันอย่างเต็มตา มาที่นี่ทั้งทีเราต้องดูภูเขาไฟให้คุ้มโดยการนั่งรถบัสชมภูเขาไฟฟูจิในมุมต่าง ๆ รอบทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) และที่ไม่ควรพลาดเลยคือการนั่งกระเช้า Mt.Fuji Panorama Ropeway ขึ้นไปสัมผัสความสวยงามของวิวทิวทัศน์โดยรอบ ชมสวนโออิชิ (Oishi Park) ตามด้วยพิพิธภัณฑ์ศิลปะอิตจิคุ คูโบตะ (Itchiku Kubota Art Museum) แล้วไปต่อกันที่เจดีย์แดง 5 ชั้น ชูเรโต  (Chureito Pagoda) ซึ่งเป็นจุดชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามโดยเฉพาะในช่วงหน้าซากุระ

เที่ยวญี่ปุ่นวันที่ 4: เที่ยวเมืองเก่าเกียวโต

เช้านี้เราจะเปลี่ยนที่นอนไปนอนกันที่โตเกียว โดยเริ่มจากนั่งรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น(shinkansen) ที่สถานีโตเกียว(Tokyo Station) หรือสถานีชินากาว่า (Shinagawa Station) ไปยังสถานีเกียวโต(Kyoto Station) จากนั้นฝากกะเป๋ากันก่อนที่โรงแรมแล้วเลยตะเวนเที่ยวรอบเกียวโตกันเลย เริ่มจากหาอาหารทานอร่อย ๆ ที่ตลาดนิชิกิ(Nishiki Market) แล้วต่อกันที่วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera) หรือวัดน้ำใส วัดไม้เก่าแก่ที่สุดในเกียวโตสร้างขึ้นมาในปี ค.ศ. 778 เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยใครมาที่นี่อย่าลืมขอพรล่ะ จากนั้นไปเที่ยวย่านกิอง (Gion) และฮิงาชิยามะ (Higashiyama) ย่านเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อเรื่องของเกอิชา อีกทั้งยังมีงานเซรามิก งานฝีมือท้องถิ่น และวัดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO อย่างวัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือวัดเงินด้วย

 

เที่ยวญี่ปุ่นวันที่ 5: เที่ยวต่อในเกียวโต

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการไปเที่ยวชมเสาแดงหรือประตูโทริที่ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ (Fushimi Inari Taisha) แล้วต่อด้วยป่าไผ่อาราชิยามะ (Arashiyama) ที่มีชื่อเสียงหากมีเวลาอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ลองล่องเรือในแม่น้ำคัตสึระ เดินเล่นเที่ยววัดเทนริวจิ (Tenryuji Temple) สวนสวย ๆ และศาลเจ้าแบบเซน จากนั้นแวะทานอาหารเติมพลังแล้วไปเที่ยวกันที่วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) วัดทองอร่าม และปิดท้ายวันที่ปราสาจนิโจ(Nijo Castle)หรือพระราชวังอิมพีเรียล(Imperial Palace) ในเกียวโต

 

เที่ยวญี่ปุ่นวันที่ 6: เที่ยวนารา อุจิ และโอซาก้า

คราวนี้เราไปเที่ยวเมืองใกล้ ๆ เกียวโตที่นารา(Nara)กันดีกว่า เริ่มจากวัดโทไดจิ(Todaiji) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดสูง 15 เมตร ใกล้ ๆ จะมีสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยกวางสัญลักษณ์ของเมืองนาราที่เปรียบเสมือนผู้ส่งสารกับเทพเจ้าให้เพื่อน ๆ ได้ให้อาหารถ่ายรูปและเพลิดเพลินไปกับเพื่อนตัวน้อยที่น่ารัก จากนั้นเราเดินทางต่อไปที่เมืองอุจิ(Uji) เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องชาเขียวมากที่สุดเพราะเป็นแหล่งผลิตชาญี่ปุ่นคุณภาพสูง เมืองนี้จึงมีร้านค้าเล็ก ๆมากมายให้เพื่อน ๆ ได้เที่ยวสนุกกัน และสุดท้ายเราก็มาถึงโอซาก้า(Osaka)เมืองแห่งแสงสีและผู้คนมากมานใครอยากเดินชอปปิ้งหาของกินอร่อย ๆ ตรงมาที่นี่ย่านโดทงโบริ(Dotonbori) และย่านชินเซไค(Shinsekai) รับรองไม่ผิดหวัง

เที่ยวญี่ปุ่นวันที่ 7: เก็บตกโอซาก้าก่อนกลับ

และแล้วเราก็มาถึงวันสุดท้ายในญี่ปุ่น ใครที่ยังพอมีเวลาอาจจะใช้เวลานี้ในการตามเก็บสถานที่อื่น ๆ ที่พลาดไปอย่างปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) สวนรอบ ๆ ปราสาท, ศาลเจ้าโกโกกุ(Gokoku Shrine), และศาลเจ้าโอซาก้าเทมมังงุ (Osaka Temmangu Shrine) ติดกับถนนชอปปิ้งเท็นจินบาซึ ซูจิ(Tenjinbashisuji Shopping Street) ถนนชอปปิ้งสายยาวเพื่อให้เพื่อน ๆ ได้ชอปปิ้งกันก่อนกลับอย่างจุใจ ก่อนจะนั่งรถไฟไปยังสนามบินคันไซ (Kansai International Airport: KIX) โดยใช้เวลาเพียง 50 นาทีจากสถานี Shin-Osaka หรือนั้งรสบัส 45 นาทีจากสถานี Namba

 

                  เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับไอเดียแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่นแบบทั้ง 7 วันที่เราพาเพื่อน ๆ เที่ยวกันจนคุ้มสุด ๆ ทั้งพาเที่ยว พาชอปปิ้ง และพากินในทุก ๆ เมือง สำหรับใครที่ยังไม่มีแพลนไปเที่ยวญี่ปุ่นเราจะพาไปกินอาหารญี่ปุ่นสุดคุ้มที่ Kabocha sushi ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เราเลือกแต่วัตถุดิบคุณภาพดี พิถีพิถันตั้งแต่ขั้นเตรียมวัตถุดิบ การปรุงรส ภาชนะใส่อาหาร การจัดเสิร์ฟ และการจัดส่งแบบ Delivery ด้วยราคาสุดคุ้มที่ใคร ๆ กินแล้วต้องติดใจ เพื่อความสุขของลูกค้าที่เป็นคนพิเศษสำหรับเรา นึกถึงอาหารญีุ่ปุ่นอย่าลืมนึกถึง Kabocha sushi นะครับ