“นิโกริ สาเก” (濁り酒) สาโท ญี่ปุ่น กินเย็นหรือร้อนดี?

           เชื่อว่าหลายคนยังคงไม่รู้จักว่าเหล้าใสๆ ที่สีเหมือนกันของ ญี่ปุ่น แต่ความจริงแล้วเป็นเหล้าต่างชนิดกัน เนื่องจากเหล้าพวกนี้ส่วนใหญ่ทำมาจากข้าวที่ต่างกัน ทำให้ได้รสชาติของเหล้ามีความคล้ายกันค่ะ ทั้งยังมีกระบวนการผลิตที่ตางกันด้วยทำให้ปริมาณความเข้มข้นของแอลกอฮอล ที่ไม่เหมือนกัน เช่น “ สาเก หรือ นิฮอนชู ” จะใช้ ข้าวญี่ปุ่น เป็นวัตถุดิบหลักโดยไม่ผ่านการหมักข้าว ส่วน “สาโท” ที่จะใช้ข้าวสำหรับการหมักสำหรับสาโทโดยเฉพาะ เป็นต้น เช่น โดบุโรคุ และ สาเกนิโกริ ซึ่งเหล้าทั้ง 2 ชนิดนี้ต่างก็เป็น สาโทญี่ปุ่น ทั้งคู้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแค่เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของ เหล้าญี่ปุ่น เท่านั้น แต่เรายังมีเรื่องน่ารู้ของ เหล้าญี่ปุ่น อีกเพียบเพื่อ สาวกเหล้าญี่ปุ่น ถ้าพร้อมแล้วตาม Kabocha มาเลย

ความแตกต่างของ "โดบุโรคุ " และ "นิโกริ"

     สาโท เป็น เหล้าญี่ปุ่น ชนิดหนึ่งที่ใช้กระบวนการหมักสามารถแยกย่อยได้หลายชนิด โดยที่ “โดบุโรคุ” ทำจากข้าวจิวจูที่ผ่านการหมักกับข้าว แต่ไม่ผ่านกระบวนการบีบอัด ซึ่งในอดีตเราสามารถหมักเหล้าโดบุโรกุกันเองได้ภายในบ้าน แต่ในขณะรี้ทำไม่ได้แล้วใครทำถือว่าผิดกฎหมายทันที และจะถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายภาษีสุราให้จำคุกหรือปรับหากทำ สาเก โดยไม่ได้รับอนุญาตได้เลยนะ  "โดบุโรคุ" ที่ยังไม่ได้ถูจึงไม่จัดว่าเป็น เหล้าสาเก

ในขณะที่ นิโกริ เป็นเหล้าที่ผ่านการหมักข้าวกับน้ำ จากนั้นนำไปใส่ถุงแล้วบีบอัด ก่อนที่แยกน้ำกับกากข้าวออก แล้วนำเหล้ามากรองให้ใสจนกลายมาเป็นเหล้าสีใส ๆ ที่เราเห็นกันค่ะ ซึ่งกระบวนการบีบอัดนี้เองที่ทำให้นิโดริมีความต่างกับโดบุโร ทำให้นิโดริมีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่มากเท่ากับ สาเกทั่ว ๆ ไป และยังมีสีขาวขุ่นและออกใสอีกทั้งเมื่อเทียบกับ สาเกชนิดอื่นแล้ว สาเกทั่วไป จะออกหวานให้ความรู้สึกสดชื่น แต่นิโกริจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตรงที่จะให้รสชาติที่เข้มข้นจากแป้งจำนวนมาก คุณจึงสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอ่อ่ ๆ และรสชาติของข้าวที่กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

โดบุโรกุ และนิโกริ ควรทานกับอาหารประเภทไหนดี?

     โดบุโรคุ มีรสชาติของข้าวที่เข้มข้น ดังนั้นจึงเข้ากันได้ดีกับอาหารประเภทเครื่องเคียงของ ญี่ปุ่น เช่น ปลาย่างหรือจะเป็น อาหารญี่ปุ่น ที่มีรสเผ็ดด้วยนะ หรือจะเป็นโซบะอาหารอันโอชะก็ดูเข้ากันได้ดี หรือใครจะกินกับน้ำซุปที่มีรสไม่เปรี้ยวก็ได้ แต่ถ้าใครชอบกินเปรี้ยวลองกินโดบุโดกุกับ อาหารญี่ปุ่น พวกผัดออกเปรี้ยว ๆ ดีกว่าค่ะ  

ส่วนนิโกริ เป็น สาเก ที่มีรสหวานจึงเข้ากันได้ดีกับ อาหารญี่ปุ่นที่มีรสชาติเบา ๆ มากกว่าค่ะ เช่น ปลาขาว อาหารญี่ปุ่น ที่มีรสเปรี้ยวหวานก็ทานได้เหมือนกันนะคะ หรือจะเป็นพวกขนมอบ เช่น มาการอง ก็ได้อีกฟีลหนึ่งเลยค่ะ

นิโกริสาเก กินร้อน หรือเย็นดีนะ

     นิโกรินั้น สามารถกินได้ทั้งร้อยและเย็นเลยค่ะ เพียงแต่ว่าการกินในอุณหภูมิที่ต่างกันจะทำให้ได้รสชาติของเหล้าที่ต่างกันอย่างเหลือเชื่อ สำหรับคนโดยทั่วไปมักจะนิยม กินสาเก แบบเย็นมากกว่า เพราะทำให้รู้สึกถึงความเมาได้มากกว่า และสามารถนำไปชงเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรูปแบบต่าง ๆ กันได้ง่าย เช่น กินเป็นออนเดอะร็อค หรือทำเป็นคอกเทลดี ๆ สักแก้ว โดยการนำเอานิโกริมาเติมมะนาวลงได้ลงไปก็จะได้คอกเทลร็อคนิกิริในสูตรเฉพาะของคุณ หรือจะลองมิกซ์กับเครื่องดื่มอื่น ๆ เพื่อให้รสชาติที่อร่อยไม่เหมือนใครก็ได้นะ

ส่วนการดื่มนิโกริอีกวิธีที่อยากแนะนำในช่วงในฤดูหนาว คือ การกินเหล้านิโกริแบบร้อน โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมจะอยู่ประมาณ 35 - 40 องศาเซลเซียส ในช่วงความร้อนระดับนี้ คุณจะได้จิบเหล้าในรสชาติเบา ๆ เพลิน ๆ กินเหล้าไปกินขนมไป แต่ถ้าใครชอบเหล้าแรง ๆ รสชาติเข็มข้น ต้องเปลี่ยนมากินเหล้านิโกริที่ความร้อน 50 องศาเซลเซียส แล้วคุณจะรู้สึกถึงเหล้าที่เข้มข้น และรสชาติที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเลยนะ

            สำหรับอาหารใครที่อยากกิน สาโท กับ ซูชิ ก็ทำได้เลยค่ะ สามารถดื่มก่อนหรือ หลังซูชิ ได้เลย และสามารถกินได้ทั้งแบบร้อนและเย็นได้เช่นกัน ใครชอบกินเย็นควรกินในอุณหภูมิไม่เกิน 5 องศาเซลเซียส หรือถ้าแบบร้อนควรมีอุณหภูมิสูงสุด 55 องศาเซลเซียสเลยค่ะ 

           และหากใครที่ไม่รู้ว่าจะหาสาโทกินคู่กับซูซิ หรือ อาหารญี่ปุ่นอร่อย ๆ ได้ที่ไหน มาที่ ร้านอาหารญี่ปุ่น Kabocha Sushi ได้เลยค่ะ มาที่เดียวคุ้มมาก เพราะนอกจากจะได้ กินอาหารญี่ปุ่น ที่อร่อยหลากหลายเมนูแล้ว ยังได้คำแนะนำในการ ดื่มเหล้าญี่ปุ่น กับอาหารแต่ละประเภทด้วยนะ พิเศษขนาดนี้ต้องมาลองด้วยตัวเองแล้วที่ Kabocha Sushi ทุกสาขา แล้วอย่าลืมพาเพื่อนๆ มานั่ง กินอาหารญี่ปุ่น พูดคุยกันสนุกๆ หรือจะมาปาร์ตี้สังสรรค์ก็ได้เช่นกันค่ะ