ประเทศญี่ปุ่น ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยสัตว์ทะลหลายชนิด มีตั้งแต่ปลาขนาดเล็กไปจนถึงปลาขนาดใหญ่ รวมถึงปลาหายากด้วย รู้หรือไม่ว่า..มี ปลาญี่ปุ่น บางชนิด ที่ราคาแสนแพง อยากกินก็ไม่ได้กินได้ง่าย ๆ ซึ่ง ปลาญี่ปุ่น ชนิดนั้นเป็นปลาอะไรบ้าง? ทำไมคนญี่ปุ่น ถึงจะต้องลิ้มลองกันสักครั้ง และทำใหม่ปลาเหล่านี้ถึงมีราคาแพงกันละ เราไปตะลุย ทะเลญี่ปุ่น หาคำตอบกันครับ
1. ปลาอามาไดขาว
ปลาอามาไดขาว หรือ ปลาชิโระอามาได ในภาษาญี่ปุ่น ปลาชนิดนี้ถูกขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งปลาเนื้อขาว” เป็นปลาที่มักอาศัยอยู่บริเวณใต้พื้นทะเลลึก ในพื้นทรายในระดับความลึกอยู่ที่ 30 ถึง 100 เมตร ถูกพบมากในแถบตอนกลางของ เกาะฮอนชู ไปจนถึงทางตะวันออกของ เกาะเชจู และ ทะเลจีนใต้ มีความยาวลำตัวอยู่ที่ประมาณ 60 เซนติเมตร ลำตัวเรียวใบ หน้าแบน มองแล้วอาจดูประหลาดไม่เหมือนปลาทั่วไป ส่วนเนื้อปลาจะมีสีขาว และ มีไขมันแทรกซึมอยู่ จึงมีทั้งความหวานและความมัน เมื่อทานแล้วจะให้ความรู้สึกกรุบหน่อย ๆ เนื้อเด้ง ยืดหยุ่น กินแล้วอร่อย เหมาะสำหรับการ ซาชิมิ ชูชิ และนำไปย่างด้วยไฟอ่อน ๆ เพื่อให้มีกลิ่นหอม สาเหตุที่ ปลาชนิดนี้มีราคาแพง เนื่องจาก เป็นปลาที่สามารถจับได้น้อยมาก จึงทำให้ราคาสูง โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 10,000 เยนเลยทีเดียว
2. ปลากะพงสีดอกกุหลาบ
ปลาชนิดนี้ ในภาษาญี่ปุ่น เรียกว่า “โนโดะกุโระ” เป็นปลาที่มักพบอยู่ในเมนูอาหารระดับภัตตาคาร หรือ มิชลินสตาร์ พบมากใน มหาสมุทรแปซิฟิก และ ทะเลญี่ปุ่น มักจะอาศัยอยู่ในแนวปะการังใกล้ชายฝั่ง ปลาชนิดนี้จะมีลักษณะ คอสีดำ ลำตัวมีขนาดยาวถึง 30 เซนติเมตร เนื้อสีขาวอมชมพู และ มีไขมันแทรกอยู่ จึงทำให้ได้รสชาติที่อร่อย และเนื้อนุ่มละลายในปาก ปัจจุบันเป็นปลาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่พ่อครัวจะนำปลาชนิดนี้ไปย่าง ต้มเป็นหม้อไฟ รวมถึงเสิร์ฟแบบดิบ ๆ อย่าง ชูชิ หรือ ซาชิมิ เพื่อให้ได้ผู้ทานได้เพลิดเพลินกับรสชาติของเนื้อปลาที่หวานฉ่ำแบบสดๆ สาเหตุที่ปลาชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องจับปลาทีละตัว ทำให้ปลาโนโดะกุโระมีราคาแพง โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 18,000 เยน/กิโลกรัม
3. ปลาคุเอะ
เป็นชื่อของ ปลาเก๋า ในภาษาญี่ปุ่น มีขนาดใหญ่ยาวสูงสุดได้มากกว่า 1 เมตร มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “ปลาอะระ” ได้รับยกย่องว่าเป็น “ปลาชั้นสูง” เพราะมีรสชาติที่เบา และ ละเอียดอ่อน มีเนื้อสัมผัสถึงความนุ่มละลายในปาก จึงมักนิยมนำไปทำเป็น ซาชิมิปลาดิบ และ หม้อไฟ ตัวปลามีสีขาวมีเนื้อติดมันทำให้ได้รสชาติที่หวาน สามารถทานได้ทั้งตัว บริเวณหนังปลาจะมีเนื้อเจลาตินค่อนข้างมากทำให้ยิ่งกินยิ่งรู้สึกอร่อย ตรงหัวปลาก็มีรสชาติอร่อยแบบอุมามิ โดยเฉพาะส่วนท้องเป็นส่วนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะมีไขมันมากกว่าใครก็ต้องติดใจ ปลาชนิดนี้มีราคาอยู่ที่ประมาณ 15,000 เยนต่อกิโลกรัม และถ้ายิ่งปลามีขนาดตัวใหญ่ก็จะยิ่งมีราคาที่สูงมากยิ่งขึ้นด้วยนะ
4. ปลาคุโรมากุโระ
ปลาคุโรมากุโระ คือ ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ถูกขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งปลาหรือเพชรแห่งท้องทะเล” พบมากในมหาสมุทร แปซิฟิก รวมถึงทะเลญี่ปุ่น และยังได้รับสมญานามว่าเป็น “ราชาแห่งชูชิ” ด้วยลักษณะของปลาที่มีขนาดใหญ่ ขนาดตั้งแต่ 80 ถึง 400 กิโลกรัม ลำตัวมีสีน้ำเงินเข้ม ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในทะเลที่มีความหนาวเย็นจัด ทำให้เนื้อปลามีความเนื้อที่นุ่มและแน่น แถมยังมีไขมันสูงทำให้ได้รสชาติชี่ชุ่มฉ่ำ เนื้อเด้งเป็นอย่างมาก ด้วยปลาชนิดนี้จับได้ยากและมีตัวขนาดใหญ่จึงมีราคาที่ค่อนข้างแพง ส่วนใหญ่แล้วราคาจะอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 700,000 เยน แต่ทั้งนี้ราคาจะมากหรือน้อยอาจขึ้นอยู่กับการประมูลของปลาในวันนั้นด้วยครับ
เห็นแบบนี้แล้วถ้าใครได้ไปถึงประเทศญี่ปุ่น อย่าลืมมองหาเมนูที่ที่ทำจาก ปลาทั้งสี่ชนิดนี้ นะครับ ของดีแบบนี้แหละที่ทำให้ คนญี่ปุ่นหลายคน ต่างหลงใหล และ อยากจะลิ้มลองสักครั้งหนึ่งในชีวิต
แต่ถ้ายังไม่มีโอกาสได้ ไปเยือนญี่ปุ่น เลยก็มาทางนี้เลย เราจะพาทุกคนไป กินอาหารญี่ปุ่น แบบที่ไม่ต้องบินไปไกลถึง ญี่ปุ่น เพราะคุณสามารถ ทานอาหารญี่ปุ่นที่อร่อย ไม่แพ้กันได้ที่ “คาโบฉะ (Kabocha)” ร้านอาหารญี่ปุ่น ที่ใส่ใจทุกขั้นตอนตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบด้วยความชำนาญ ปรุงรสอย่างพิถีพิถันด้วยความใส่ใจ ส่งมอบอาหารให้คุณด้วยความอบอุ่น เพื่อให้คุณได้ ทานอาหารญี่ปุ่นที่อร่อยอย่างมีความสุข เมื่อทานแล้วคุณจะได้สัมผัสถึงรสชาติ อูมามิ ที่อร่อยไม่รู้ลืม มาพบกับอร่อยสดใหม่และใส่ใจได้แล้วที่ คาโบฉะ ทุกสาขา หรือจะสั่งทางเดลิเวอรี่ ก็ได้นะครับ