How to กิน "นัตโตะ" หรือ ถั่วเน่าญี่ปุ่น ให้ถูกวิธีตามแบบฉบับ คนญี่ปุ่น

     ถ้าเอ่ยถึงชื่อ “นัตโตะ” หรือ “ถั่วเน่าญี่ปุ่น” ตอนนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เพราะช่วงนี้ กระแสนัตโตะ มาแรงมากในแอปพลิเคชั่น Tiktok หลายคนได้ทดลองกินแต่กินไม่ได้ด้วยกลิ่นที่แรงเฉพาะตัว บางคนก็ชอบกินด้วยความชอบกลิ่นที่หอมมากเช่นกัน วันนี้ Kabocha Sushi (คาโบฉะ ซูชิ) จะพามารู้จัก “นัตโตะ” หรือ “ถั่วเน่าญี่ปุ่น” ให้มากยิ่งขึ้น ว่าทำไม คนญี่ปุ่น ถึงได้ Loveนัตโตะ อย่างมากจนเป็นอีก 1 เมนูอาหารประจำชาติ  ถ้าพร้อมตามเรามาเลยครับ

รู้จักกับ “นัตโตะ” หรือ ถั่วเน่า อาหารญี่ปุ่นเมนูถั่ว

     นัตโตะหรือ ที่รู้จักกันในนามถั่วเหลืองหมัก มีกลิ่นที่แรง และมีความเหนียว จึงมีคำเรียกติดปากว่า “ถั่วเน่า” วัตถุดิบหลักใน อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เห็นแบบหน้าตาแบบนี้กว่าจะทำได้ไม่ง่ายเลย เพราะต้องใช้เวลาทำนานหลายชั่วโมงโดยการนำถั่วมาหมักทิ้งไว้ข้ามวันข้ามคืน แล้วนำไปอบจึงจะได้เป็น “นัตโตะ” ถั่วหมักแสนอร่อยของ คนญี่ปุ่น ซึ่งต่างจากวิธีดั้งเดิมที่ใช้การนำถั่วเหลืองต้มไปใส่ไว้ในฟางข้าว แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้จุลินทรีย์ทำงานอีกที เราเรียกกระบวนการนี้ว่า “การหมัก” สำหรับ ประวัติของนัตโตะ ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด แต่มีเรื่องเล่าถึง ประวัติของนัตโตะ ไว้ว่า…

     ย้อนกลับไปเมื่อปี 1083 ผู้บัญชาการซามูไรผู้ยิ่งใหญ่นามว่า “มินาโมโตะ โนะ โยชิอิเอะ” ในโทโฮคุได้พาเหล่าซามูไรใต้บังคับบัญชาของตนไปปราบขุนศึกที่ดื้อรั้น คืนหนึ่ง คนของมินาโมโตะ กำลังต้มถั่วเพื่อเลี้ยงม้า แต่ปรากฏว่าค่ายของพวกเขาถูกลอบโจมตีอย่างกะทันหัน ด้วยความที่เสียดายถั่วต้ม จึงได้นำถั่วต้มไปเก็บไว้ในฟางแล้วนำไปซุกไว้ใต้อานม้าอีกที ก่อนที่จะควบม้าเข้าสู่สนามรบ ไม่กี่วันต่อมา คนของมินาโมโตะ กลับมาจากสนามรบอย่างปลอดภัย เขานึกขึ้นได้จึงหยิบเอาถั่วต้มที่เก็บไว้ออกมา ปรากฏว่าถั่วดูเละเหนียวเหนะหนะไม่น่ากิน แต่ด้วยที่ทุกคนอยู่ในสภาพที่หิวโซและขาดแคลนเสบียง เหล่านักรบซามูไรจึงตจำใจกินถั่วที่มีอยู่นั้น ปรากฎว่า พอพวกเขาได้ลองกินก็เกิดรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากเพราะมีถั่วเหนียว ๆ กลิ่นแรง ๆ มีรสชาติที่อร่อยมาก และจากตอนนี้เองที่ทำให้ นัตโตะอาหารอันเลื่องชื่อ ได้ถือกำเนิดขึ้นมา! 

นัตโตะ (ถั่วเน่า) สุดยอดอาหาร ของคนญี่ปุ่น

     นัตโตะมีคุณค่าทางโภชนาการ อย่างไม่น่าเชื่อ และมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายมากมาย เพราะมีวิตามิน B6 โฟเลต และกรดแพนโทเทนิก ในปริมาณเล็กน้อยที่ช่วยในเรื่องของการต่อต้านสารอนุมูลอิสระ อีกทั้งนัตโตะ ผ่านกระบวนการหมักจึงมีโปรไบโอติกส์รวมอยู่ด้วย ซึ่งโปรไบโอติกนี้ จะช่วยให้ลำไส้ดูดซึมสารอาหารได้ง่ายขึ้น ช่วยลดอาการท้องผูก ท้องร่วงได้ดี เป็นแหล่งของวิตามิน K2 ที่มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นโปรตีนให้ช่วยนำแคลเซียมเข้าสู่กระดูกของคุณและกักเก็บไว้ที่นั่น ทำให้กระดูกมีความแข็งแรงขึ้น รวมถึงมีนัตโตไคเนส ซึ่งเป็นเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่ได้จากการหมัก อาจช่วยละลายลิ่มเลือด ควบคุมความดันโลหิตได้ดี และยังอุดมไปด้วยวิตามินซี เหล็ก สังกะสี ซีลีเนียม และทองแดง ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันด้วย นัตโตะจึงได้ชื่อว่าเป็นอาหาร “Super Food” อีก 1 เมนูที่ควรลิ้มลอง!

วิธีกินนัตโตะ (ถั่วเน่า) แบบคนญี่ปุ่น

     ในญี่ปุ่น นัตโตะมักบริโภค เป็นส่วนหนึ่งของอาหารเช้าทุกวัน ในร้านขายของชำทั่วไป ในญี่ปุ่น เราอาจพบ นัตโตะหลายสิบชนิด และหลายแบรนด์บนชั้นวาง ส่วนใหญ่มักจะมีซอสหรือมัสตาร์ดให้มาด้วย สำหรับวิธีกินก็แสนง่ายเพียงแค่ดึงพลาสติกใสด้านบน ของนัตโตะออก แล้วคลุกเคล้านัตโตะ เข้าด้วยกัน จากนั้นใส่ซอสและมัสตาร์ดลงไปผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน สุดท้ายนำไปวางไว้บนข้าวร้อน ๆ แค่นี้ก็อร่อยได้แล้ว 

    ถ้าคุณไม่ชอบ กลิ่นของนัตโตะ ขอแนะนำให้เติมส่วนผสมหรือเครื่องปรุงต่าง ๆ ลงไป เพราะวิธีนี้ไม่เพียงแต่ทำให้รสชาติของอาหารดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยกลบกลิ่นที่เป็น เอกลักษณ์ของนัตโตะ ได้อีกด้วย สำหรับท็อปปิ้งที่ คนญี่ปุ่นมักใส่เพิ่มเข้ากับเมื่อ ทานคู่กับนัตโตะ ได้แก่ หัวหอมสีเขียว คัตสึโอะบุชิ (ปลาแห้งหั่นฝอย) ผักดอง และไข่ดิบหรือไข่แดงอย่างเดียวก็ได้ บางคนอาจมีการเพิ่มส่วนผสมอื่น ๆ เข้าไปด้วย เช่น วาซาบิ ชีส มายองเนส สาหร่าย บ๊วยดอง พริกไทย และ ทูน่า หรือจะลองทานคู่กับขนมปังและพาสต้าก็อร่อยไม่แพ้กัน ลองดูเลย!

     ตอนนี้ถ้าใครอยากลองชิม เมนูนัตโตะ หรือ ถั่วเน่าญี่ปุ่น สามารถหาซื้อในเมืองไทยได้ง่ายแล้วที่ห้างสรรพสินค้าต่างๆ หรือที่ DON DON DONKI ทุกสาขา และถ้าใครคิดถึง อาหารญี่ปุ่น รสชาติญี่ปุ่นแท้ๆ ก็สามารถแวะมาทานที่ร้านอาหารญี่ปุ่น คาโบฉะ ซูชิ (Kabocha Sushi) กันได้เลยนะครับ หรือจะสั่งแบบ ออนไลน์เดลิเวอรี่ (Delivery) ก็สามารถสั่งได้นะครับ รับรองส่งไวทันใจกินอร่อยที่บ้านได้ทันที