Tokyo National Museum ภารกิจพลิกฟื้นตำนานญี่ปุ่นจนกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง

                ญี่ปุ่นเป็นอีกประเทศที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และมีความน่าสนใจอยู่มากมาย รัฐบาลญี่ปุ่นจึงมีไอเดียที่อยากพลิกฟื้นประวัติศาสตร์ เพื่อดึงดูดให้คนรุ่นใหม่กลับมาสนใจอีกครั้ง และในที่สุด Tokyo National Museum หรือ พิพิธภัณฑ์ประจำชาติญี่ปุ่น ก็ได้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยฟื้นตำนานให้กลับมามีชีวิตขึ้นอีกครั้ง ใครเป็นสายชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์ เสพงานศิลป์ พลาดไม่ได้เลย วันนี้ Kabocha Sushi จะพาทุกคนมาทัวร์สถานที่นี่กัน ว่าช่วงนี้มีน่าสนใจที่กำลังเป็นกระแส ต้องมาดูกันสักครั้ง!

 

 

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โตเกียว

หรือ พิพิธภัณฑ์โตเกียว ตั้งอยู่บริวเณสวนอุเอโนะ ใจกลางกรุงโตเกียว สามารถเดินทางมาลงที่สถานีรถไฟอุเอโนะ เป็นสถานีที่ใหญ่มาก เดินทางสะดวกมาก พิพิธภัณฑ์โตเกียว สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยไป ไม่ใช่มีแค่อาคารหลังเดียว แต่เป็นคอมเพล็กซ์แกลเลอรีที่แตกต่างกันรวมกันอยู่ในวิทยาเขตที่มีรั้วรอบ อยู่ติดกับสวนสาธารณะอุเอโนะอันกว้างขวาง ใจกลางกรุงโตเกียว สามารถเดินทางมาลงที่สถานีรถไฟอุเอโนะ ซึ่งเป็นสถานีที่ใหญ่มาก เดินทางสะดวก มักเป็นจุดศูนย์กลางในการเดินทางทั่วโตเกียว ผู้ที่มาชมพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่จะมุ่งตรงไปที่โถงนิทรรศการพิเศษในเฮเซกัง ดังนั้นจึงพลาดชม “แกลเลอรีสมบัติโฮริวจิ” มีขนาดเล็กแต่ทรงคุณค่าตำนานญี่ปุ่น ที่ซ่อนตัวอยู่ในดงไม้ทางด้านซ้ายของประตูหลัก

            แกลเลอรีอันเงียบสงบนี้เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมแบบมินิมอล ออกแบบโดยคุณ Yoshio Taniguchi ซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ โดยเป็นที่เก็บสะสมโบราณวัตถุประมาณ 300 ชิ้น ส่วนใหญ่มาจากศตวรรษที่ 7 และ 8 รู้จักกันในนามขุมสมบัติโฮริวจิ ที่เก็บพระพุทธรูป ภาพวาด สิ่งทอ และวัตถุโบราณหายากอื่นๆ และนำถวายแก่ราชวงศ์อิมพีเรียลในปี พ.ศ. 2421 โดยวัดโฮริวจิในนารา เป็นคอลเลคชันเดียวที่อยู่ในพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียวที่มีอาคารของตัวเอง การเข้าถึงรวมอยู่ในค่าเข้าชมปกติแล้ว ดังนั้นสำหรับใครก็ตามที่มีความสนใจในสถาปัตยกรรมหรือศาสนาพุทธ แกลเลอรีของ Horyuji Treasures ก็คุ้มค่ากับการเดินทางมาเป็นพิเศษ เพราะมีแต่ของหายากทรงคุณค่าเป็นตำนานญี่ปุ่นทั้งนั้น 

            แกลเลอรีใหม่นี้จัดแสดงภาพจำลองขนาดเท่าของจริงของภาพวาดสมัยศตวรรษที่ 11 ในคอลเลกชั่นของแกลเลอรีครั้งหนึ่งเคยประดับประตูบานเลื่อนภายในวัดโฮริวจิ ชื่อเรื่องว่า "ชีวประวัติของเจ้าชายโชโตกุ" เล่าเรื่องชีวิตของเจ้าชายโชโตกุผู้ก่อตั้งวัด ซึ่งภาพประกอบ “ชีวประวัติของเจ้าชายโชโตกุ” ถูกวาดในปี 1069 ประมาณ 450 ปีหลังจากการสิ้นพระชนม์ของเขา ภาพฮาจิโอกราฟก็ได้รับการพัฒนาอย่างดี ในบรรดา 58 เรื่องราวที่เลือกโดยศิลปินเพื่อเล่าถึงชีวิตของเจ้าชายนั้น มีฉากที่พระองค์ลอยและทรงม้าบินขึ้นไปบนภูเขาไฟฟูจิ ภาพวาดโฮริวจิไม่ใช่ผลงานชิ้นเดียวที่บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าชายโชโตกุ แต่ยังเป็นภาพที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุด

 

 

นอกจากนี้ ยังมีชุดภาพจิตรกรรมฝาผนังทางพุทธศาสนาซึ่งครั้งหนึ่งเคยประดับผนังด้านในของ Kondo Hall ของ Horyuji เชื่อกันว่าวาดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 7 ถึงต้นศตวรรษที่ 8 จิตรกรรมฝาผนัง ถือเป็นตัวอย่างที่ดีโดยเฉพาะของพุทธศิลป์ยุคแรกในเอเชีย ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักในปี 2492 เมื่อเกิดไฟไหม้ในวัด การสูญเสียผลงานชิ้นเอกชิ้นนี้เกือบสิ้นเชิง ได้รับการรายงานในข่าวว่าเป็นโศกนาฏกรรมระดับชาติ สิ่งเดียวที่ปลอบใจได้คือการบันทึกรายละเอียดภาพถ่ายมีขึ้นเมื่อสองสามปีก่อน

 

 

               สมบัติของโฮริวจิมีชุดหน้ากาก Gigaku ดั้งเดิมหลายชุด Gigaku เป็นศิลปะการแสดงของชาวพุทธที่ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับญี่ปุ่นจากทวีปเอเชียในช่วงต้นศตวรรษที่ 7 ในช่วงที่เจ้าชาย Shotoku ยังมีชีวิตอยู่ Gigaku ไม่ค่อยมีใครรู้จัก เพราะความนิยมลดลงตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา และหายไปอย่างสิ้นเชิงในสมัย ​​Kamakura (1192-1333) แต่ตามข้อความที่เป็นลายลักษณ์อักษรและจารึกบนหน้ากาก เชื่อว่า Gigaku ได้ผสมผสานดนตรี ละครใบ้ และนักเต้นสวมหน้ากากในชุดหลากสีสัน แสดงเพื่อให้ความบันเทิงแก่ผู้เข้าชมวัดและแบ่งปันคำสอนทางพุทธศาสนาด้วยวิธีที่เข้าใจง่ายและมักมีอารมณ์ขัน ในแกลเลอรีของ Horyuji Treasures หน้ากาก Gigaku ดั้งเดิมจะถูกเก็บไว้ในห้องพิเศษที่เปิดเฉพาะในวันศุกร์และวันเสาร์ ข้อจำกัดในการเข้าถึงคือการรักษาผลงาน เนื่องจากเป็นหน้ากากไม้ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในโลก มีอายุตั้งแต่ครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 7 และต้นศตวรรษที่ 8 จึงต้องดูแลอย่างดี 

 

               พิพิธภัณฑ์โตเกียว (Tokyo National Museum) จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่และกว้างขวาง มีถึง 5 อาคารหลักให้ได้เที่ยวชม และในบริเวณสวนอุเอโนะก็ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจกันถึง 4 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์ศิลปะมหานครโตเกียว, National Museum of Nature and Science, National Museum of Western Art, Tokyo Bunka Kaikan รวมถึงสวนสัตว์อุเอโนะ มาที่เดียวสามารถเที่ยวได้ทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น หรืออาจต้องใช้เวลา 2-3 วันในการชมพิพิธภัณฑ์อย่างละเอียด ใครที่ชอบพิพิธภัณฑ์ห้ามพลาดเลยนะ รับรองว่า “พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว” จะกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ในใจคุณเมื่อได้มา ซึ่งจะเปิดทำการในเวลา 9.30-17.30 น. ปิดทุกๆ วันจันทร์ และวันหยุดประจำชาติ

           และหากใครอยากกินอาหารญี่ปุ่น รสชาติญี่ปุ่นสไตล์เอโดะแท้ๆ เเวะมาได้ที่ร้าน  Kabocha sushi เพราะที่นี่ไม่ใช่แค่รสชาติที่เหมือน แต่วัตถุดิบยังเลือกแบบพรีเมียมชั้นเลิศนำเข้ามาจากญี่ปุ่นโดยตรง ส่งตรงมาแบบสดใหม่ มาปรุงเมนูกว่า 300 เมนู ให้เลือกทาน นอกจากนี้ทางร้านยังมีบริการ delivery ให้อร่อยแบบส่งถึงบ้าน ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางอีกด้วยนะครับ